<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักเล่นหุ้นไทยตัดพ้อ “ซื้อหุ้นไทย…โง่ ชห.“ แต่ถ้าซื้อ Bitcoin คือรวย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ช่วงเมื่อวานที่ผ่านมาในกลุ่มคุยหุ้นบน Facebook นั้นได้มีผู้ใช้ Facebook โพสต์ตัดพ้อเอาไว้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นไทย

ความน่าสนใจคือถ้ามาเปรียบเทียบหุ้นไทยกับ Bitcoin นั้นเราจะเห็นความต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ตลอดช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2019–2024) ตลาดการเงินทั่วโลกได้เผชิญกับความผันผวนอย่างมากจากปัจจัยทั้งเศรษฐกิจโลก การแพร่ระบาดของโควิด-19 สงครามการค้า และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ซึ่งได้ส่งผลให้ทั้งตลาดหุ้นไทยและตลาดคริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะ Bitcoin มีพฤติกรรมราคาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

สำหรับตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET Index ในปี 2019 ยืนอยู่ราว 1,600 จุด ก่อนจะดิ่งลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยแตะระดับต่ำสุดที่ประมาณ 1,000 จุด จากนั้นจึงเริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และคงตัวอยู่ในช่วง 1,500–1,700 จุดตลอดปี 2021 ถึงต้นปี 2024 แม้จะมีความผันผวนในบางช่วง แต่การฟื้นตัวของ

เศรษฐกิจหลังโควิดและการกระตุ้นจากภาครัฐช่วยให้ตลาดหุ้นกลับมาแข็งแรงระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนเฉลี่ยในช่วง 5 ปีของตลาดหุ้นไทยถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่น

ในขณะเดียวกัน Bitcoin ได้แสดงศักยภาพของการเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างชัดเจน โดยในปี 2019 Bitcoin มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ราว ๆ $3,700 และพุ่งขึ้นถึง $29,000 ภายในสิ้นปี 2020 ซึ่งเป็นผลจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการเข้ามาลงทุนของสถาบันในตลาดคริปโท ช่วงบูมของ Bitcoin ยังคงต่อเนื่องในปี 2021 โดยราคาทำจุดสูงสุดที่ประมาณ $69,000 ในเดือนพฤศจิกายน ก่อนจะเข้าสู่ช่วงขาลงในปี 2022 โดยลดลงเหลือเพียง ~$15,000 แต่หลังจากนั้น Bitcoin ได้ฟื้นตัวอีกครั้ง และกลับมาเคลื่อนไหวในช่วง $40,000–$70,000 ณ ปี 2024

เมื่อเปรียบเทียบในเชิงผลตอบแทน หากนักลงทุนถือ Bitcoin ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบัน จะเห็นการเติบโตของมูลค่าสูงกว่าการลงทุนในหุ้นไทยหลายเท่าตัว แต่ต้องไม่ลืมว่า Bitcoin มีความผันผวนสูง และเคยสูญเสียมูลค่าเกิน 50% ภายในเวลาไม่กี่เดือน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยแม้ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า แต่ก็มีเสถียรภาพและความผันผวนที่น้อยกว่า