สหรัฐฯ เตรียมเปิดฉาก “Crypto Week” อย่างเป็นทางการในวันที่ 14 กรกฎาคมนี้ โดยคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดเวทีพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับคริปโตและ Web3 ซึ่งแต่ละฉบับอาจส่งผลต่อทิศทางของวงการสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกในระยะยาว การจัดสัปดาห์คริปโตในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ร่าง “Big Beautiful Bill” ได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้าย ทำให้พรรครีพับลิกันเร่งเดินหน้านโยบายคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์แบบไม่มีพัก
ร่างกฎหมายที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในสัปดาห์นี้ได้แก่ GENIUS Act, CLARITY Act และ Anti-CBDC Surveillance State Act โดยที่ GENIUS Act ถือว่าเดินหน้าไปไกลที่สุด เพราะผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว และเตรียมเข้าสู่การโหวตในสภาล่าง ซึ่งร่างนี้จะกำหนดกรอบการกำกับดูแล Stablecoin ในระดับชาติ และเปิดทางให้สินทรัพย์อย่าง USDT และ USDC เข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินแบบดั้งเดิมได้อย่างถูกกฎหมาย มีรายงานว่า Tether เองก็เร่งลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ เพื่อรองรับทิศทางนี้
ด้าน CLARITY Act คือร่างกฎหมายที่พยายามวางกรอบนิยามให้ชัดเจนว่าโทเค็นใดควรจัดเป็น “หลักทรัพย์” และโทเค็นใดเป็น “สินค้าโภคภัณฑ์” เพื่อช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลไม่ขัดแย้งกันอีกต่อไป ร่างนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาในคณะกรรมาธิการ และแม้จะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้เล่นในอุตสาหกรรม แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่า “ยืดหยุ่นเกินไป” จากอดีตประธาน CFTC ที่กังวลว่าเนื้อหาบางส่วนอาจทำให้กฎหมายไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
สำหรับ Anti-CBDC Surveillance State Act นั้น แม้จะมีบทบาทในเชิงสัญลักษณ์ของการต่อต้านเงินดิจิทัลจากธนาคารกลาง (CBDC) โดยเฉพาะของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ แต่ร่างนี้ยังแทบไม่มีความคืบหน้าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แกนหลักของร่างเน้นจำกัดไม่ให้ Fed พัฒนา CBDC ในอนาคต ไม่ได้ห้ามประชาชนถือครอง CBDC จากต่างประเทศ โดยถูกมองว่าเป็นความพยายามล็อกเกมล่วงหน้าในกรณีที่ฝ่ายเดโมแครตกลับมามีอำนาจอีกครั้ง
Crypto Week จึงกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจที่สำคัญของวงการคริปโต เพราะทั้งสามร่างกฎหมายนี้อาจกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ และส่งอิทธิพลต่อแนวโน้มของตลาดทั่วโลก นักลงทุนและผู้พัฒนาโปรเจกต์ Web3 ทุกคนจึงควรจับตาให้ดี เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ อาจเป็น “จุดเปลี่ยน” ของโลกคริปโตในระดับนโยบายอย่างแท้จริง
ที่มา : beincrypto

