ล่าสุดช่วงเช้ามืดวันนี้ (18 ก.ค.) ตามเวลาไทย สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมาย “GENIUS Act” อย่างเป็นทางการนับเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญในยุคที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ร่างกฎหมายผ่านการลงคะแนนเสียงขั้นสุดท้ายด้วยคะแนน 308 ต่อ 122 เสียง ได้รับการสนับสนุนจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต
ร่างกฎหมายฉบับบนี้ประกาศเป้าหมายจะผลักดันอเมริกาให้เป็น “ศูนย์กลางคริปโตของโลก” โดย GENIUS Act ถือเป็นร่างกฎหมายฉบับแรกจากทั้งหมด 3 ฉบับที่ได้รับไฟเขียวให้ส่งตรงถึงมือประธานาธิบดีเพื่อรอการลงนามอย่างเป็นทางการ
แต่ทั้งนี้ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ โดยเฉพาะจากฝั่งเดโมแครต ที่ตั้งข้อสังเกตถึงผลประโยชน์ทับซ้อนของครอบครัวทรัมป์ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์คริปโตอย่าง World Liberty Financial และเหรียญ USD1
GENIUS Act มุ่งเน้นการควบคุมและคุ้มครองผู้บริโภคในตลาด Stablecoin ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าผูกกับสินทรัพย์ที่มั่นคง เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ โดย เฟรนช์ ฮิลล์ ประธานคณะกรรมการบริการทางการเงินแห่งสภาผู้แทนฯ ระบุว่า “ร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ แข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งปกป้องผู้บริโภคในยุคการเงินดิจิทัล”
ขณะเดียวกัน อีก 2 ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กฎหมาย Clarity Act และ Anti CBDC Act ทั้งสองฉบับยังต้องส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณาต่อ
อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นวินาทีประวัติศาสต์ของชุมชนคริปโต หากประธานาธิบดีทรัมป์เซ็น GENIUS Act อย่างเป็นทางการซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย การลงนามครั้งนี้จะเปิดทางให้ธนาคารยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ อย่าง JPMorgan สามารถออก Stablecoin ของตนเองได้ ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่อาจจุดประกายกระแสขาขึ้นครั้งสำคัญให้กับตลาดคริปโตในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา:Aljazeera

