ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าเขาเตรียมแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) คนใหม่ รวมถึงหัวหน้าสำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ภายในไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งถือเป็นสองตำแหน่งสำคัญที่จะส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
การประกาศครั้งนี้มีขึ้นหลังจากอดรีอานา คูเกลอร์ (Adriana Kugler) ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการเฟดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้ว่าเทอมของเธอจะยังไม่สิ้นสุดจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า โดยทรัมป์กล่าวว่ามี “หลายคนอยู่ในใจ” สำหรับตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งอาจรวมถึงผู้ที่มีแนวโน้มสนับสนุนการลดดอกเบี้ยตามจุดยืนของเขา เช่น เควิน วอร์ช, คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์, สก็อตต์ เบสเซนต์ หรือแม้แต่ที่ปรึกษาเศรษฐกิจคนสนิทอย่างเควิน แฮสเซตต์
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้ไล่อีริกา แมคเอนทาร์เฟอร์ (Erika McEntarfer) ออกจากตำแหน่งหัวหน้า BLS ทันทีหลังรายงานตัวเลขการจ้างงานออกมาอ่อนแอกว่าคาด โดยเขาระบุว่า “ข้อมูลถูกปรับเพื่อกลบความสำเร็จของรีพับลิกัน” และประกาศว่าจะตั้งผู้บริหารคนใหม่ที่ “โดดเด่น” แทนที่เธอ
การปลดแมคเอนทาร์เฟอร์ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากอดีตผู้อำนวยการ BLS คนก่อนของทรัมป์เอง ซึ่งมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีมูลความผิด พร้อมระบุว่าข้อมูลของ BLS ปัจจุบันมีความแม่นยำมากกว่าที่ผ่านมาในรอบหลายสิบปี
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันที่ไม่เคยมีมาก่อนจากทำเนียบขาวต่อเฟด โดยทรัมป์ยังคงโจมตีประธานเฟดคนปัจจุบัน เจอโรม พาวเวลล์ อย่างหนัก ทั้งเรียกว่า “โกรธเกินไป โง่เกินไป และการเมืองเกินไป” พร้อมเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่เห็นด้วยกับนโยบายดอกเบี้ยที่ยังคงสูง
ท่าทีแข็งกร้าวและการแทรกแซงหน่วยงานอิสระของรัฐบาลนี้ ตอกย้ำว่าแผนเศรษฐกิจยุคใหม่ของทรัมป์อาจเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านที่มีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อเขาเร่งผลักดันสหรัฐฯ ให้เป็นศูนย์กลางการเงินและคริปโตของโลก พร้อมเตรียมแต่งตั้งบุคคลที่สอดคล้องกับเป้าหมายดังกล่าวในทุกตำแหน่งสำคัญทางเศรษฐกิจ
ที่มา: financeyahoo