<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นำหน้าตลาดด้วย AI ! วิธีใช้ Google Gemini ตีความข่าวคริปโต เพื่อสร้างสัญญาณเทรดที่แม่นยำ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ถ้าคุณติดตามข่าวคริปโตอยู่เป็นประจำ คงจะเคยเห็นข่าวอย่าง “สภาคองเกรสสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายคริปโต 3 ฉบับก่อนหยุดพักเดือนสิงหาคม” แล้วคงสงสัยว่า ข่าวนี้จะกระทบการลงทุนยังไงบ้าง ?

แน่นอนว่าเมื่อมีข่าวใหญ่แบบนี้ สัญชาตญาณแรกของหลาย ๆ คนก็ต้องเช็กราคา Bitcoin ก่อน แล้วก็ไปอ่านคอมเมนต์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเต็มไปด้วยทั้งข่าว FOMO   และข่าว FUD จนบางทีแทนที่จะได้ข้อมูลชัด ๆ กลับยิ่งสับสนเข้าไปกันใหญ่

แต่ในอดีตเราต้องอ่านข่าวจากหลายที่ ทั้ง X หรือกลุ่มแชตต่าง ๆ แล้วค่อยพยายามรวบรวมข้อมูล แต่มันก็มักจะมีอคติและอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ดี

พอมาถึงยุคนี้ แค่ใช้ AI อย่าง Google Gemini หรือ ChatGPT ก็สามารถช่วยเปลี่ยนวิธีการวิเคราะห์ข่าวได้ง่ายขึ้น แทนที่จะถาม AI ว่าควร “ซื้อหรือขาย” เราสามารถใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์สถานการณ์ได้แบบเป็นระบบมากขึ้น ทำให้เราไม่ต้องแค่เสพข่าว แต่กลายเป็นนักวิเคราะห์ที่ใช้เครื่องมือ AI ช่วยคิด

ในบทความนี้ ทางสยามบล็อกเชนจะพาไปดูว่าเราจะใช้ AI อย่าง Google Gemini เพื่อเปลี่ยนข่าวคริปโตให้กลายเป็นกลยุทธ์การเทรดที่ใช้ได้จริงได้ยังไง และเราจะเจาะลึกขั้นตอนต่าง ๆ ทีละขั้นให้เข้าใจง่าย ๆ

ขั้นที่ 1 : ใช้รวมข้อมูลให้ครบ และเป็นกลาง

ในโลกคริปโต แหล่งข่าวแต่ละแห่งมักตีความต่างกัน  บางสำนักบอกว่า “ดีต่อ Bitcoin” ขณะที่อีกเจ้าอาจบอกว่า “กระทบกับ DeFi

คุณสามารถใช้ Gemini เพื่อรวบรวมข่าวจากหลายแหล่ง แล้วสรุปออกมาเป็นภาพรวมให้เข้าใจง่าย เช่น ใช้ Prompt ว่า :

“ร่างกฎหมายคริปโต 3 ฉบับ ผ่านสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2025 สรุปเนื้อหาสั้น ๆ ใน 150 คำ โดยอ้างอิงจาก Bloomberg, Cointelegraph และ Wired”

ผลลัพธ์ Gemini คือ จะดึงข้อมูลจากทั้งแหล่งข่าวการเงิน แล้วสรุปเป็นข้อมูลที่ชัดเจน ไม่เอนเอียง ช่วยลดเวลาอ่านหลายบทความ

 ขั้นที่ 2 : ใช้วิเคราะห์อารมณ์ของตลาด (Market Sentiment)

ราคาในตลาดไม่เคลื่อนไหวจากข่าวล้วน ๆ แต่เคลื่อนไหวจาก “ความรู้สึกของนักลงทุน” ต่อข่าวนั้น

Gemini สามารถสแกนโซเชียลมีเดีย หรือความเห็นของอินฟลูฯ คริปโตแล้วประเมินได้ว่า กระแสตอบรับโดยรวม “เป็นบวก เป็นลบ หรือกลาง ๆ”

คุณสามารถใช้ Prompt ว่า “เช็กว่า อินฟลูเอนเซอร์คริปโต และสื่อการเงินบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X พูดถึงร่างกฎหมายคริปโต 3 ฉบับของสหรัฐฯ อย่างไร ความเห็นส่วนใหญ่เป็นบวก ลบ หรือเป็นกลาง?”

ผลลัพธ์ Gemini คือ Gemini จะแสดงภาพรวมว่า เสียงส่วนใหญ่ชื่นชมกฎหมายใหม่ เรื่องให้ความชัดเจนในการกำกับดูแล และช่วยให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำในวงการคริปโต แม้จะมีบางส่วนแสดงความกังวลเรื่อง DeFi

ขั้นที่ 3: ใช้เชื่อมโยงผลกระทบในวงกว้าง

ข่าวแต่ละข่าวไม่ได้ส่งผลแค่ต่อราคาในปัจจุบัน แต่ยังอาจเปลี่ยนแปลงทิศทางของอุตสาหกรรมในระยะยาวด้วย 

คุณสามารถใช้ Gemini เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบเหล่านั้นได้ เช่น การระบุว่า บริษัทหรือกลุ่มไหนที่จะได้หรือเสียประโยชน์จากข่าวทันที และประเมินผลกระทบในระยะยาวที่จะตามมา

คุณสามารถใช้ Prompt ว่า “กฎหมายใหม่จะส่งผลต่อบริษัทคริปโตหรือกลุ่มใดบ้าง (เช่น Exchange, Stablecoin, DeFi) แล้วจะส่งผลต่อเทรนด์ใหญ่ เช่น การยอมรับ Bitcoin อย่างไร?”

ผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ของ Gemini คือ กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากความชัดเจนทางกฎหมาย น่าจะเป็นบริษัทอย่าง Circle  และ Coinbase  ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจของบริษัทเหล่านี้เติบโตได้ดีขึ้น 

ส่วนโปรเจกต์ DeFi แบบกระจายศูนย์อาจยังคงดำเนินการได้ต่อไป ขณะที่แพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ อาจเผชิญกับข้อจำกัดทางกฎหมายที่มากขึ้น

โดยสรุปแล้ว กฎหมายเหล่านี้ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบัน ตอกย้ำสถานะของ Bitcoin ในฐานะสินค้าโภคภัณฑ์ และทำให้ตลาดคริปโตโดยรวมดู “น่าเชื่อถือ” มากขึ้นในสายตานักลงทุนรายใหญ่

 ขั้นที่ 4 : สร้างแผนการเทรด

เมื่อรู้ข้อเท็จจริง อารมณ์ตลาด และผลกระทบแล้ว ก็ควรใช้ Gemini ช่วยร่างแผนเทรดออกมาอย่างเป็นระบบ

โดยลองขอให้ Gemini สร้าง “มุมมองขาขึ้น” ที่ชัดเจน พร้อมแนวรับ แนวต้าน จุดตัดขาดทุน และปัจจัยเสี่ยง

คุณสามารถใช้ Prompt ว่า “จากข่าวกฎหมายคริปโตใหม่ของสหรัฐฯ และอารมณ์ตลาดตอนนี้ ช่วยสร้างแผนเทรด Bitcoin ในช่วงขาขึ้นสำหรับ 3 เดือนข้างหน้าได้ โดยระบุ ราคาแนวโน้ม, จุดตัดขาดทุน, เป้าราคา และความเสี่ยง 3 อันดับแรก ในรูปแบบตาราง”

เมื่อวิเคราะห์จากข่าวกฎหมายคริปโตใหม่ของสหรัฐฯ และสถานการณ์ตลาดปัจจุบันแล้ว Gemini จะสามารถสร้างตารางที่มีการวางแผนชัดเจน ให้

AI เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างมาก เพราะสามารถรวบรวมข่าว วิเคราะห์อารมณ์ตลาด เปรียบเทียบข้อมูลจากหลายแหล่ง และช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมได้อย่างรวดเร็วในไม่กี่วินาที

อย่างไรก็ตาม AI ไม่สามารถรู้ได้ว่า คุณกำลังเก็บเงินเพื่อซื้อบ้าน หรือต้องการลงทุนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น อีกทั้งยังไม่รู้ว่า คุณยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน และไม่สามารถช่วยจัดการความกลัวของคุณเมื่อเกิดการเทรดที่ผิดพลาดได้

ดังนั้น AI จึงไม่ได้เข้ามาแทนที่ แต่เข้ามา “เสริม” ความสามารถของคุณ ในยุคที่ตลาดคริปโตเริ่มมีกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งคนที่จะได้เปรียบคือ คนที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลมาใช้ประกอบกับ “การตัดสินใจ” ในการลงทุนของตัวเอง 

นี่คือโอกาสที่จะเปลี่ยนตัวเองจากการเป็นเพียงผู้อ่านข่าว มาเป็นนักลงทุนที่มีระบบ และเปลี่ยนจากการไล่ตามกระแส มาเป็นการวางแผนบนพื้นฐานของข้อมูลที่แท้จริง

ที่มา : cointelegraph