Bitcoin ทำผลงานได้เหนือกว่าหุ้น Berkshire Hathaway และพอร์ตการลงทุนหลักของบริษัท Berkshire Hathaway ในปี 2025 แสดงให้เห็นว่า การมองข้าม Bitcoin ทั้งในแง่การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และโอกาสในการเติบโตนั้น เป็นการเสียโอกาสครั้งใหญ่ของวอร์เรน บัฟเฟตต์
แม้ว่า บริษัท Berkshire Hathaway ภายใต้การนำของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะรายงานผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 สูงถึง 12,300 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อดูในรายละเอียดจะพบว่า บริษัทยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย และโอกาสที่พลาดไปจากการที่ไม่ถือ Bitcoin
Berkshire Hathaway ซึ่งขาดทุนจากการลงทุนใน Kraft Heinz ส่งผลให้บริษัทต้องบันทึกค่าเสื่อมเป็นมูลค่าสูงถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดียว และขาดทุนจากการลงทุนแบบ Equity Method ในช่วงครึ่งปีแรก รวม 4,600 ล้านดอลลาร์
สิ่งนี้ส่งผลให้บริษัท Berkshire Hathaway มีกำไรสุทธิลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และราคาหุ้นของ Berkshire ก็เติบโตเพียง 3.55% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งน้อยกว่าทั้งดัชนี S&P 500 ที่เติบโต 7.51% และ Bitcoin ที่พุ่งสูงขึ้นถึง 16.85%
ผลการดำเนินงานของ BRK.A, SPX, BTC/USD นับตั้งแต่ต้นปี ที่มา: TradingView
ณ สิ้นเดือนมิถุนายน บริษัท Berkshire Hathaway ถือครองเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสดรวม 100,490 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น และตราสารที่ให้ผลตอบแทนต่ำ
เงินสดที่ Berkshire ถือครอง ที่มา: กำไรไตรมาส 2
หากนำเงินสดเหล่านั้นเพียง 5% (หรือประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์) ไปลงทุนใน Bitcoin ตั้งแต่ต้นปี ด้วยอัตราผลตอบแทนของ Bitcoin ที่สูงถึง 16.85% ตั้งแต่ต้นปี บริษัท Berkshire Hathaway จะเห็นผลกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้น (unrealized profit) สูงถึงกว่า 850 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 27,501 ล้านบาท ) ภายในเดือนสิงหาคมนี้

แม้ว่าผลกำไรจาก Bitcoin จะไม่สามารถชดเชยผลการขาดทุนจาก Kraft Heinz ได้ทั้งหมด แต่ก็จะช่วยลดผลกระทบลงได้ในระดับหนึ่ง และอาจเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับบริษัทมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกที่ บริษัท Berkshire Hathaway ยังไม่ได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืน
นอกจากนี้ Bitcoin ยังสร้างผลตอบแทนแซงหน้าหุ้นหลักสามตัวในพอร์ตของ บริษัท Berkshire Hathaway อย่าง Apple (AAPL), American Express (AXP), และ Coca-Cola (KO) อีกด้วย
ผลตอบแทน BTC/USD เทียบกับ AAPL, AXP และ KO นับตั้งแต่ต้นปี ที่มา: TradingView
ก่อนหน้านี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยวิจารณ์ Bitcoin อย่างรุนแรง โดยเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือน “ยาเบื่อหนู” และยืนยันว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีมูลค่าใด ๆ และไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ จึงไม่ควรนำมาอยู่ในพอร์ตการลงทุน
แม้ว่าปัจจุบัน Greg Abel จะเข้ามาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งแล้ว แต่เขาก็ยังไม่มีท่าทีในการสนับสนุน Bitcoin หรือคริปโตเคอร์เรนซีที่ชัดเจน
ที่มา : cointelegraph

