สำนักข่าว Financial Times รายงานล่าสุดว่า จีนเตรียมอนุมัติการพัฒนา Stablecoin สกุลเงินหยวน เพื่อใช้ทั้งในและนอกประเทศ โดยจะใช้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางในการทดลองเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนจำกัดการพัฒนา Stablecoin มานานหลายปี
เป้าหมายหลักของการพัฒนา Stablecoin หยวนคือ การเข้าท้าชิงส่วนแบ่งตลาดจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นสกุลเงินหลักในตลาด Stablecoin โดยมีมูลค่ารวมกว่า 2.79 แสนล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะ USDT ของ Tether ที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.64 แสนล้านดอลลาร์
ส่วนแบ่งการตลาดที่แข็งแกร่งนี้ เป็นผลมาจากมาตรการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มุ่งรักษาสถานะเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลก ซึ่งรวมถึงการออกกฎหมาย GENIUS Act เพื่อสนับสนุนการพัฒนา Stablecoin ที่อิงกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ แม้แต่บริษัท Stablecoin ระดับโลกอย่าง Tether ก็ยังเคยพยายามที่จะเปิดตัว Stablecoin หยวนเป็นของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่า “CNHT” ในปี 2018 แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ
Pan Gongsheng ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ได้เคยประกาศไว้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า การพัฒนา Stablecoin ในประเทศจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขเฉพาะของจีน แม้ว่าจีนจะมีสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่รัฐบาลก็ยังคงใช้ฮ่องกงเป็นพื้นที่ทดสอบ Stablecoin ต่อไป ซึ่งเป็นการเปิดประตูอีกครั้งให้กับตลาดคริปโตหลังจากที่เคยสั่งห้ามในจีนแผ่นดินใหญ่
การเปิดรับวงการคริปโตของจีน ถูกคาดการณ์ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของกฎหมาย ซึ่งจะดึงดูดบริษัท Web3 ทั่วโลกให้เข้ามาจัดตั้งธุรกิจในฮ่องกงมากขึ้น และจะเร่งให้เกิดการยอมรับเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
ที่มา:coinpedia

