นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นหนึ่งในปัจจัยชี้วัดสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ใช้ประกอบการตัดสินใจนโยบายการเงิน ล่าสุดกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า CPI เดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 2.7% เท่ากับเดือนมิถุนายน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.8% ขณะที่ CPI รายเดือนเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% สอดคล้องกับการคาดการณ์ และชะลอลงจาก 0.3% ในเดือนก่อนหน้า
แม้ตัวเลข Core CPI ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน จะยังเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดเล็กน้อยที่ 3.0% แต่ตลาดมองว่าภาพรวมเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง และไม่ร้อนแรงเกินไปเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้ Fed มีพื้นที่ในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ระบุว่า หลังการประกาศตัวเลขนี้ ความน่าจะเป็นที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายนพุ่งขึ้นแตะ 90% จากระดับก่อนหน้าเพียงราว 75-80% การคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนว่าตลาดกำลังให้น้ำหนักสูงต่อทิศทางดอกเบี้ยขาลงในระยะสั้น
แรงหนุนสำคัญมาจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐที่ชะลอตัวในเดือนกรกฎาคม พร้อมการปรับทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนก่อน ๆ ลง ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อการคงดอกเบี้ยสูงนาน ขณะเดียวกัน สัญญาณเศรษฐกิจบางส่วนชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังเย็นตัวลง ทำให้การลดดอกเบี้ยอาจเป็นมาตรการเสริมเพื่อพยุงการเติบโต
นักวิเคราะห์มองว่า หาก Fed เดินหน้าลดดอกเบี้ยตามคาดในเดือนกันยายน จะเป็นสัญญาณบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งตลาดหุ้น ทองคำ และคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะบิตคอยน์และอีเธอเรียมที่มักได้อานิสงส์จากสภาพคล่องในระบบการเงินที่เพิ่มขึ้น
ที่มา: stockinvest