เกาหลีใต้เผยความคืบหน้าคดีใหญ่ เมื่อหน่วยสืบสวนไซเบอร์ของโซลจับกุมแก๊งอาชญากรไซเบอร์ที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยเงินไปกว่า 39,000 ล้านวอน (ราว 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,000 ล้านบาท) จากเหล่าผู้บริหารบริษัทใหญ่และคนดัง รวมถึง จอน จองกุก สมาชิกวง BTS ที่ถูกพยายามโจรกรรมหุ้น HYBE ของเขา
จากรายงานท้องถิ่น ระบุว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ทั้งหมด 18 คน โดยแก๊งนี้มีพฤติกรรมแฮกข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินจากหน่วยงานรัฐ บริษัทไอที และสถาบันต่างๆ เพื่อเจาะเข้าบัญชีธนาคาร หลักทรัพย์ และ cryptocurrency exchanges ของเหยื่อ ซึ่งมีผู้เสียหายมากถึง 258 ราย
ความเสียหายรวมทั้งหมดแตะ 64,000 ล้านวอน (ประมาณ 46 ล้านดอลลาร์) โดยสามารถยืนยันได้ว่ามีเหยื่อ 16 คนถูกขโมยเงินไปจริง 39,000 ล้านวอน และมีอีก 10 รายที่ถูกพยายามฉ้อโกงอีก 25,000 ล้านวอน ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งคนดัง 3 คน และผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ 2 คน หนึ่งในเหยื่อที่สูญเสียหนักที่สุดเสียคริปโตไปกว่า 21,300 ล้านวอน
สำหรับกรณีของ จองกุก BTS แฮกเกอร์พยายามชำระบัญชีหุ้น HYBE มูลค่ารวมกว่า 8,400 ล้านวอน แต่ธุรกรรมถูกตรวจสอบและอายัดไว้ทัน จึงไม่เกิดความเสียหายจริง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ตอกย้ำถึงความซับซ้อนและความอันตรายของการโจรกรรมไซเบอร์ในวงการการเงินดิจิทัล
ข้อมูลจากตำรวจยังเผยว่า แก๊งนี้เลือกเป้าหมายเฉพาะกลุ่มที่ “มีโอกาสตรวจสอบตัวเองได้ช้า” เช่น ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ถูกจำคุก, คนดัง หรือ นักกีฬาที่อยู่ในช่วงรับราชการทหาร รวมถึงนักลงทุนคริปโตที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ โดย จองกุกเองเพิ่งพ้นการเกณฑ์ทหาร จึงกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมาย
ด้านผู้บงการหลักของเครือข่ายนี้ ซึ่งเป็นชาวจีน 2 คน ถูกจับที่ประเทศไทยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนถูกส่งตัวกลับเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อตั้งข้อหาฉ้อโกงและดำเนินคดีทางกฎหมาย
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างแรงสั่นสะเทือนในแวดวง K-pop แต่ยังสะท้อนถึงความเสี่ยงของตลาดการเงินดิจิทัล โดยเฉพาะกับกลุ่ม high-net-worth individuals ที่ถือสินทรัพย์คริปโตและหุ้นจำนวนมาก ยิ่งตอกย้ำความสำคัญของ cybersecurity และ self-custody ในยุคที่สินทรัพย์ดิจิทัลถูกยกเป็นเครื่องมือการเงินระดับโลก
ที่มา: joongang