ค่าเงินบาทวันนี้ (8 ก.ย.) ได้แสดงให้เห็นถึงการแข็งค่าที่น่าประทับใจ ส่งผลให้เหรียญ Stable Coin ตรึงสกุลเงินดอลลาร์อย่าง USDT ร่วงลดลงไปถึงระดับ 31.8 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี กลายเป็นคำถามตามมามากมายว่า สาเหตุอะไรที่ผลักดันให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้ขนาดนี้ และนักลงทุนคริปโตควรกังวลหรือไม่ ?

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบ 4 ปี
1. การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ
หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ เงินบาทแข็งค่า คือ การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ ที่ทำระดับ นิวไฮ ต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ เงินบาท มีความแข็งแกร่งขึ้นจากการที่นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันมาซื้อในช่วงที่มีความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน ทำให้ การไหลเข้าของเงินทุนจากการซื้อทองคำ เข้ามาสนับสนุนเศรษฐกิจไทยและส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามไปด้วย
2. การคาดการณ์นโยบายดอกเบี้ยของเฟด
อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด ได้เพิ่มแรงกดดันต่อเฟดให้มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยในวันที่ 17-18 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ส่งผลให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงทันที และเปิดทางให้ค่าเงินในเอเชีย รวมถึงเงินบาท แข็งค่าขึ้นตาม
3. ความชัดเจนทางการเมืองไทย
ปัจจัยสุดท้ายที่ทำให้ เงินบาทแข็งค่า คือ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ที่มีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติกลับมาอีกครั้ง เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดการเงินและตลาดหุ้นไทยมากขึ้น กลายเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนสำคัญที่ผลักดันให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง
เงินบาทแข็งค่านักลงทุนคริปโตควรกังวลหรือไม่ ?
การแข็งค่าของเงินบาทในครั้งนี้อาจสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนคริปโตบางส่วน เนื่องจากราคาของเหรียญ Stable Coin USDT เมื่อแลกกลับมาเป็นเงินบาทนั้นลดลง ส่งผลกระทบต่อกำไรในการซื้อขายหรือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโต
อย่างไรก็ตามสำหรับนักเทรดที่ซื้อขายคริปโตโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นหลักอาจไม่รับรู้ถึงผลกระทบมากนัก เนื่องจากการซื้อขายคริปโตจำนวนมากมักดำเนินการในสกุลเงินอื่น เช่น USDT และ Bitcoin โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องแปลงเป็นเงินบาทบ่อยครั้ง
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในตลาดคริปโตเองก็เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาเช่นกัน เนื่องจากตลาดคริปโตมีความผันผวนสูงและราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว การแข็งค่าของเงินบาทอาจเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวซึ่งไม่ส่งผลกระทบระยะยาวต่อนักเทรดในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ควรจับตาดูแนวโน้มของค่าเงินดิจิทัลและข่าวเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่องเพื่อประเมินทิศทางการลงทุนในอนาคต

