แวดวงการเมืองสหรัฐฯ และตลาดคริปโตต้องเผชิญกับข่าวสุดสะเทือนใจ เมื่อ ชาร์ลี เคิร์ก (Charlie Kirk) นักเคลื่อนไหวสายอนุรักษ์นิยมวัย 31 ปี คนสนิทของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกยิงเสียชีวิตกลางวันแสก ๆ ที่มหาวิทยาลัย Utah Valley ระหว่างการจัดงาน “American Comeback Tour” เมื่อวันพุธที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา
การจากไปของ ชาร์ลี เคิร์ก ไม่ได้กระทบแค่แวดวงการเมือง แต่ยังลุกลามไปถึงวงการคริปโต เพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin และมีบทบาทสำคัญเบื้องหลังการผลักดันให้ทรัมป์อภัยโทษแก่ รอส อูลบริชท์ (Ross Ulbricht) ผู้ก่อตั้ง Silk Road ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต จนท้ายที่สุดอูลบริชท์ได้รับการปล่อยตัวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
หลังจาก รอส อูลบริซท์ ถูกปล่อยตัว เขาโพสต์อธิบายบน X ว่า “เคิร์กไม่เคยรับเครดิตสำหรับเรื่องที่ผมถูกปล่อยตัว แต่เขามีบทบาทสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น”
รอสเสริมว่า “ตอนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เขาถามเคิร์กว่าอะไรคือสิ่งแรกที่จะทำเพื่อตอบแทนเขาได้ แล้วเคิร์กก็ตอบว่า: ‘ปลดปล่อยรอส’”
สาเหตุที่ ชาลี เคิร์ก กลายเป็นคนสนิทของทรัมป์เป็นเพราะเขามีบทบาทสำคัญในการรวบรวมคะแนนเสียงจากคนหนุ่มสาวให้กับพรรครีพับลิกัน
นอกจากเรื่องการช่วยรอส อูลบริซท์แล้ว ในอดีตเคิร์กยังเคยเสนอให้สหรัฐฯ จัดตั้ง “คลังสำรอง Bitcoin” โดยเปรียบเทียบ Bitcoin ว่า มีโอกาสเติบโตเช่นเดียวกับ ‘เงินดอลลาร์สหรัฐฯ’ หรือแม้กระทั้ง ‘ภาษาอังกฤษ’ ที่เมื่อการยอมรับไปถึงจุดหนึ่งแล้ว คนก็จะแห่ใช้กันทั่วโลก
การจากไปของ ชาลี เคิร์ก ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของชุมชนคริปโต เพราะเขาเป็น “กระบอกเสียง” คนสำคัญที่กล้าเชื่อมโยงนโยบายของสหรัฐฯ เข้ากับ Bitcoin และยกระดับให้ Bitcoin มีคุณค่ามากกว่าการเก็งกำไร เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่กล้าประกาศว่า “Bitcoin ซื่อสัตย์กว่าดอลลาร์สหรัฐฯ” ซึ่งคำพูดนี้จะยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวคริปโตไปอีกนาน
ในส่วนของคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่ายังคงอยู่ในระหว่างการสอบสวน และยังไม่สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุได้ในขณะนี้
ที่มา:coinpedia และ BitcoinNews