<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ยุคนี้อะไรก็ AI ! รายงานชี้ นักลงทุนรายย่อยแห่ใช้ ChatGPT เป็นผู้ช่วยเลือกหุ้น ก่อนลงทุน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ผ่านมา 3 ปีนับตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัวออกมาสู่สาธารณะ วันนี้แชทบอท AI ตัวนี้ไม่ได้ถูกใช้แค่ถามการบ้านหรือเขียนอีเมลอีกต่อไปแล้ว แต่กำลังกลายเป็นผู้ช่วยนักลงทุน โดยล่าสุดรายงานจาก Reuters ระบุว่า ปัจจุบันนักลงทุนรายย่อยอย่างน้อย 1 ใน 10 ได้หันมาใช้ ChatGPT ในการเลือกหุ้น และอีกครึ่งหนึ่งก็กำลังคิดจะใช้ ถึงแม้จะรู้อยู่ว่ามันเสี่ยงมากก็ตาม แต่ก็เพราะความสามารถของ AI ที่ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เมื่อก่อนต้องจ่ายแพงๆ ผ่านธนาคารหรือ Bloomberg Terminal เครื่องมือคัดกรองหุ้นระดับเทพที่องค์กรใหญ่ ๆ เลือกใช้  

ฝั่งโพลจาก eToro ก็ยืนยันว่า เทรนด์นี้กำลังมาแรงมาก จากการสำรวจนักลงทุน 11,000 คนทั่วโลก พบว่า 13% ใช้ AI อย่าง ChatGPT หรือ Gemini ไปแล้ว และเกือบครึ่งมีแผนจะใช้ในอนาคต ขณะที่ในสหราชอาณาจักรเอง มีถึง 40% ของคนที่บอกว่าเคยใช้แชทบอทหรือ AI เพื่อขอคำแนะนำด้านการเงินส่วนตัว

หนึ่งในคนที่หันมาใช้ ChatGPT อย่างจริงจังคือ Jeremy Leung อดีตนักวิเคราะห์ของ UBS ที่เคยทำงานอยู่เกือบ 20 ปี เขาบอกว่า หลังออกจากแบงก์มาก็ไม่มี Bloomberg Terminal ให้ใช้แล้ว แต่ ChatGPT ก็ช่วยทำงานได้แทบจะใกล้เคียง “แม้จะไม่สมบูรณ์” เพราะมันเข้าถึงข้อมูลที่อยู่หลังกำแพงค่าบริการไม่ได้ แต่ก็ยังคุ้มสำหรับคนที่อยากได้เครื่องมือฟรีหรือถูกกว่า

Leung เองเล่าว่า เวลาสั่งงาน ChatGPT เขาจะพยายามใส่คำอธิยายเยอะๆ เช่น “ลองทำตัวเป็นนักวิเคราะห์สาย Short แล้วบอกเหตุผลที่ควร Short หน่อย” หรือ “ใช้เฉพาะแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น เอกสาร SEC” เพราะยิ่งถามละเอียด คำตอบก็ยิ่งดีขึ้น

แน่นอนว่ามีโอกาสสูง แต่ความเสี่ยงก็ใหญ่ไม่แพ้กัน เพราะไม่มีใครรู้ว่าคนที่ใช้ AI ในการลงทุนจริงๆ นั้น ได้ใส่เครื่องมือจัดการความเสี่ยงอย่างพวก Stop Loss หรือ Hedging หรือเปล่า ถ้าไม่ทำอะไรเลย พอเจอวิกฤตหรือรอบขาลงหนักๆ อาจจะไปต่อไม่เป็น

แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมองโลกในแง่ดี  Dan Moczulski กรรมการผู้จัดการ eToro UK ย้ำชัดว่า ปัญหาคือคนเอาโมเดลทั่วไปอย่าง ChatGPT มาใช้เหมือนเป็น “ลูกแก้ววิเศษ” ทั้งที่จริงๆ แล้วมันยังมีโอกาสผิดพลาดได้เยอะ ทั้งเรื่องการอ้างตัวเลขผิด วันที่ผิด หรือการไปเชื่อแนวโน้มราคาเก่าๆ มากเกินไป เขาแนะนำว่าควรใช้แพลตฟอร์ม AI ที่ถูกออกแบบมาสำหรับวิเคราะห์ตลาดโดยตรงจะปลอดภัยกว่า

ที่น่าสนใจคือ มีเคสจริงเกิดขึ้นในปี 2023 ที่บริษัทด้านการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง  Finder ได้ทดลองให้ ChatGPT เลือกหุ้นตามเกณฑ์แบบลงทุนจริงๆ เช่น ดูหนี้สิน การเติบโตต่อเนื่อง และความได้เปรียบในการแข่งขัน ผลออกมาคือ ChatGPT เลือกหุ้น 38 ตัว ทั้งยักษ์ใหญ่สาย AI อย่าง Nvidia (NVDA), Amazon (AMZN) ไปจนถึงของกินติดบ้านอย่าง Procter & Gamble และ Walmart (WMT) สุดท้ายพอร์ตที่ ChatGPT จัดดันทำผลตอบแทนได้เกือบ 55% สูงกว่ากองทุนยอดนิยมของอังกฤษถึง 19% เลยทีเดียว แม้กองทุนนั้นจะบริหารโดยยักษ์ใหญ่อย่าง Vanguard, Fidelity, HSBC และ Fundsmith ก็ตาม

ที่มา : Reuters

ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง