ตลาดคริปโตเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังสัญญาณทางเทคนิคชี้ว่า USDT Dominance — ตัวชี้วัดสัดส่วนของ Stablecoin ในตลาด — ได้หลุดแนวรับสำคัญที่ 4.5% ลงมาในกราฟ 4 ชั่วโมง ซึ่งมักบ่งบอกถึงการลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย (เช่น USDT) และเริ่มหมุนทุนกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะ Bitcoin
ในขณะเดียวกัน กราฟราคา Bitcoin (BTC) กำลังแสดงรูปแบบ “Bullish Retest” อย่างชัดเจน โดยราคาได้ทดสอบแนวรับเส้นแนวโน้มขาขึ้นบริเวณ 110,000 ดอลลาร์ และดีดกลับขึ้นมาที่ระดับ ประมาณ 122,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องในเดือนตุลาคม — เดือนที่ตามสถิติแล้วมักจะเป็น “เดือนทองของบิตคอยน์”
ปัจจัยสำคัญที่เสริมแรงบวกให้กับตลาดในเวลานี้ คือ กระแสเงินทุนจากสถาบัน (Institutional Inflows) ที่ยังคงหลั่งไหลเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะ กองทุน ETF ของ BlackRock ซึ่งล่าสุดมีการเปิดเผยว่าได้ถือครองสินทรัพย์รวมกว่า 800,000 BTC ภายใต้การบริหาร (AUM) แล้ว ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลระยะยาว
นักวิเคราะห์บางรายมองว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็น “การปลดล็อกรอบใหม่ของแรงซื้อ” ที่จะพา Bitcoin พุ่งทะลุแนวต้าน 135,000 ดอลลาร์ ก่อนสิ้นปี โดยเฉพาะเมื่อปัจจัยพื้นฐาน เช่น การลดดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น และการเติบโตของตลาด ETF ยังคงหนุนกระแสการลงทุน
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก CoinGlass ยังชี้ว่า ปริมาณ Long Position เพิ่มขึ้นกว่า 7% ภายใน 24 ชั่วโมง สะท้อนความเชื่อมั่นของนักเทรดว่า Bitcoin อาจกำลังเข้าสู่ “เฟสเร่งแรงสุดท้าย” ของรอบขาขึ้นนี้
ที่มา: @rektfencer

