ลองนึกภาพดูว่า คุณกำลังคุยกับ AI แล้วมันจำได้ว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณบอกว่า ชอบกินพิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยน หรือจำได้ว่าคุณกำลังทำโปรเจกต์อะไรอยู่ แล้วช่วยเสนอไอเดียที่เข้ากับบริบทของคุณได้แบบเป๊ะ ๆ ไม่ใช่แค่ตอบคำถามแบบเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง นี่คือสิ่งที่ Dhravya Shah เด็กหนุ่มวัย 19 จากมุมไบกำลังพยายามทำให้สิ่งนี้กลายเป็นความจริง
จากเด็กที่ขอคอมจากพ่อแม่ สู่ CEO สตาร์ทอัพระดับโลก
เรื่องราวของ Shah เริ่มต้นแบบธรรมดามาก ๆ เขาคือเป็นเด็กที่หลงใหลในเทคโนโลยีแต่ครอบครัวมีฐานะปานกลาง ช่วง Covid-19 เขาได้ขอคอมโน้ตบุ๊กจากพ่อแม่สักเครื่อง พ่อแม่ลังเลอยู่พักใหญ่แต่ก็ยอมซื้อให้ในที่สุด และนั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
ในขณะที่เพื่อนวัยเดียวกันยังนั่งท่องตำรา Shah ได้นั่งเขียนโค้ดสร้างเครื่องมือขายบน Twitter แล้ว เขาทำเครื่องมือแปลงทวีตธรรมดาให้ดูน่าสนใจขึ้น และขายมันให้กับ Hypefury แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังได้สำเร็จ เงินที่ได้มาทำให้เขาเริ่มฝันใหญ่ขึ้น จนตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเลย
ท้าทายตัวเองแบบโหดๆ 40 สัปดาห์ติด

Shah ไม่ได้แค่นั่งฝันไปวัน ๆ เขาได้ท้าทายตัวเองด้วยการสร้างโปรเจกต์ใหม่ทุกสัปดาห์เป็นเวลา 40 สัปดาห์เต็ม จนในที่สุดก็เกิดต้นแบบของ “Supermemory” หรือชื่อเดิมคือ Any Context ที่ตอนแรกแค่ทำให้คนโต้ตอบกับ Twitter bookmarks ได้
แต่แล้วมันก็ได้วิวัฒนาการไปเรื่อยๆ จากแค่เครื่องมือธรรมดา กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถสกัดข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลดิบยุ่งเหยิงกองโตได้ ทำให้แอปเข้าใจบริบทการสื่อสารของผู้ใช้ได้ดีขึ้น
ฝึกงานกับยักษ์ใหญ่ แล้วกลับมาสร้างของตัวเอง
ปี 2024 Shah ได้ไปฝึกงานที่ Cloudflare ในสาย AI infrastructure และได้เรียนรู้จากเซียนระดับโลก รวมถึง Dane Knecht ซึ่งเป็น SVP Engineering and Emerging Tech ของบริษัท คนที่ผลักดันให้เขากล้าเอาผลิตภัณฑ์มานำวางขายจริงๆ
และนี่คือจุดที่ Supermemory เริ่มเป็นรูปเป็นร่างจริงจัง ตอนนี้ Shah เป็น CEO ของสตาร์ทอัพที่ระดมทุนได้ 3 ล้านดอลลาร์ จากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Cloudflare, Google, Meta และกลายเป็นชาวอินเดียที่อายุน้อยที่สุดที่ได้วีซ่า O-1 ซึ่งเป็นวีซ่าพิเศษสำหรับคนที่มีความสามารถพิเศษเป็นหัวกะทิเท่านั้น
Supermemory คืออะไรกันแน่?
ปัญหาของ AI ทั่วไปตอนนี้คือมัน “ลืม” ได้ง่าย มันมี “กรอบบริบท” ที่จำกัด เหมือนคนที่จำระยะสั้นได้แค่นิดเดียว แต่ Supermemory ของ Shah ทำให้ AI จำได้เหมือนมนุษย์ มันสามารถเรียนรู้จากข้อมูลในอดีตแล้วนำมาปรับใช้กับบริบทปัจจุบันได้ แทนที่จะต้องเริ่มต้นสนทนาใหม่ทุกครั้ง

แพลตฟอร์มนี้บริโภคข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ประวัติการแชท อีเมล หรือไฟล์งาน ยังเชื่อมต่อกับ Google Drive, OneDrive ได้อีกด้วย Shah อธิบายว่า จุดแข็งหลักคือการกลั่นข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลดิบแบบไหนก็ได้ แล้วทำให้แอปมีบริบทกับผู้ใช้งานมากขึ้น
ปัจจุบันเทคโนโลยีของ Supermemory ถูกนำไปใช้งานจริงในหลายบริษัท อาทิเช่น Cluely ที่มี a16z หนุนหลัง, Montra แพลตฟอร์มตัดต่อวิดีโอ, และ Scira ซึ่งเป็น search engine AI ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น Shah ยังเริ่มร่วมงานกับบริษัทหุ่นยนต์เพื่อช่วยให้เครื่องจักรสามารถจดจำข้อมูลเป็นภาพได้
ที่มา : Techcrunch

