Banco Inter ธนาคารดิจิทัลแห่งแรกของบราซิล ประกาศความสำเร็จในการทดลองใช้ระบบบล็อกเชนเพื่อการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับ Chainlink, ธนาคารกลางบราซิล และธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) เพื่อแสดงศักยภาพของ Distributed Ledger Technology (DLT) ในการลดความซับซ้อนของการโอนเงินข้ามพรมแดน
การทดลองดังกล่าว เกิดขึ้นในเฟสที่ 2 ของโครงการสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางบราซิล (CBDC) ที่ใช้ชื่อว่า “Drex” โดยจำลองการชำระธุรกรรมการส่งออกส่งออกระหว่างเครือข่าย Drex ของบราซิล และบล็อกเชน Ensemble ของฮ่องกง ซึ่งพัฒนาโดย HKMA และมุ่งสร้างระบบการค้าระหว่างประเทศบนบล็อกเชนเต็มรูปแบบ
ตามรายงานของ Banco Inter ระบุว่า Chainlink เป็นผู้อยู่เบื้องหลังโครงสร้างพื้นฐานด้านความสามารถในการทำงานร่วมกันของทั้งสองเครือข่าย ทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลและสินทรัพย์ดิจิทัลระหว่างประเทศเกิดขึ้นได้อย่างราบรื่น
Banco Inter กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ด้วยการรองรับระบบการชำระเงินแบบโทเค็น และการโอนกรรมสิทธิ์แบบอัตโนมัติผ่านสัญญา Smart Contract แพลตฟอร์มนี้ จะช่วยลดต้นทุน ลดความเสี่ยง และเปิดโอกาสทางการค้ากับต่างประเทศให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก”
ในปัจจุบันกระแส Digital Payment และการใช้งาน Stablecoin ในบราซิลกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดย Gabriel Galípolo ประธานธนาคารกลางบราซิล เปิดเผยว่า “กว่า 90% ของธุรกรรมคริปโตในประเทศมีความเกี่ยวข้องกับ Stablecoin”
รายงานจาก Chainalysis ชี้ว่า บราซิลติดอันดับท๊อป 5 ของโลกด้านการยอมรับคริปโตจากการใช้งาน Stablecoin และบริการ DeFi ที่เข้าถึงได้ง่าย
ถึงแม้โครงการ Drex จะถูกเรียกว่าเป็น “CBDC” แต่ Galípolo ยืนยันว่า เป้าหมายที่แท้จริงคือ การสร้าง “โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินใหม่” ที่ช่วยขยายโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อ และยกระดับระบบเศรษฐกิจบราซิลให้ก้าวทันโลกยุค Web3 อย่างเต็มตัว
ที่มา:cointelegraph