<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ปิดฉาก! Michael Burry แห่ง The Big Short ประกาศปิด Hedge Fund ยอมรับ “ไม่เข้าใจตลาดในปัจจุบัน”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Michael Burry นักลงทุนระดับตำนานที่โด่งดังจากการทำนายวิกฤตซับไพรม์ในปี 2008 และเป็นตัวละครหลักในภาพยนตร์เรื่อง “The Big Short” ได้สร้างความประหลาดใจให้กับโลกการเงินด้วยการประกาศปิดกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของเขาคือ Scion Asset Management ภายในสิ้นปี 2025 นี้ โดยให้เหตุผลอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาไม่สามารถทำความเข้าใจกับความผันผวนและความซับซ้อนของตลาดในปัจจุบันได้

การตัดสินใจถอนตัวออกจากตลาดครั้งนี้ถือเป็นการพลิกผันอย่างคาดไม่ถึงสำหรับ Burry ผู้ซึ่งเคยสร้างผลตอบแทนสูงสุดถึง 489% ในช่วงวิกฤต Dot-com ในปี 2000 แต่ปัจจุบันเขาต้องยอมรับความพ่ายแพ้ต่อสภาพตลาดที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนในยุคหลัง

การตัดสินใจของ Burry สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่แม้แต่นักลงทุนที่เก่งที่สุดก็ยังต้องเผชิญในสภาพแวดล้อมตลาดปี 2025 ซึ่งเต็มไปด้วยปัจจัยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตลาดในปัจจุบันถูกขับเคลื่อนด้วยการเก็งกำไรในหุ้น “Meme Stock” ที่มีแรงกระตุ้นจากโซเชียลมีเดีย จนทำให้ความผันผวนของหุ้นเหล่านี้พุ่งสูงขึ้นกว่า 30% นอกจากนี้ ดัชนีกองทุนเฮดจ์ฟันด์โดยรวมก็แสดงผลการดำเนินงานที่ลดลงกว่า 15% ในไตรมาสที่สามของปี 2025 ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่ากลยุทธ์การลงทุนแบบดั้งเดิมเริ่มเผชิญกับข้อจำกัด และที่สำคัญคือ การเข้ามาของระบบการซื้อขายที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI-driven trading) ได้เพิ่มความซับซ้อนและความเร็วของการเคลื่อนไหวของตลาด ทำให้การวิเคราะห์โดยอาศัยวิจารณญาณส่วนตัวของมนุษย์ทำได้ยากขึ้น

การปิดกองทุนของ Michael Burry จึงถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่เกิดขึ้นในหมู่นักลงทุนระดับแนวหน้า โดยคล้ายคลึงกับการปรับเปลี่ยนไปเป็น Family Office ของ John Paulson ในปี 2020 การถอยออกจากตลาดสาธารณะในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ที่หลีกเลี่ยงแรงกดดันด้านกฎระเบียบและความซับซ้อนที่ไม่สามารถควบคุมได้ในยุคปัจจุบัน โดยข้อมูลจาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ ก็แสดงให้เห็นว่าการยกเลิกการลงทะเบียนของกองทุนเฮดจ์ฟันด์มีการเพิ่มขึ้นถึง 22% ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา.

ที่มา: @Barchart