<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ก.ล.ต.เตือนผู้ใช้บริการ! การรับแลก Worldcoin ต้องมีใบอนุญาต ไม่งั้นเข้าข่ายธุรกิจผิดกฎหมาย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในปัจจุบันประเทศไทยมีการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายประเภท อาทิ ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (exchange), นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (broker) และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (dealer) เป็นต้น โดยผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนด โดยหากปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย และกฎเกณฑ์ ก.ล.ต. จะพิจารณาบังคับใช้กฎหมายตามกระบวนการที่เกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้ หลายท่านอาจจะได้เห็นจากข่าว เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่ ก.ล.ต. ได้ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เข้าตรวจสอบการให้บริการรับแลกเหรียญ Worldcoin (WLD) ณ จุดสแกนม่านตา พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย เนื่องจากการกระทำดังกล่าว มีลักษณะเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต*

สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับการให้บริการรับแลกเหรียญ WLD ทำไมจึงมีความผิดทางกฎหมาย ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า การให้บริการซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล จะต้องได้รับใบอนุญาตประเภท “ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Dealer)” 

ซึ่งหมายถึง บุคคลที่ให้บริการ หรือการแสดงต่อบุคคลทั่วไปว่า พร้อมจะให้บริการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ในนามของตนเอง ถือเป็นทางค้าปกติ โดยหากกระทำนอกศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และสิ่งที่จะเข้าข่ายว่า เป็นการกระทำที่เป็นทางค้าปกติ คือการแสดงตนว่า จะให้บริการหรือพร้อมที่จะให้บริการ เช่น ชักชวนหรือประกาศเชิญชวนให้คนมาใช้บริการกับตนเองผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งการโพสต์ในออนไลน์ การตั้งโต๊ะรับแลก การเปิดบูธรับแลกในที่ชุมชนหรือห้างสรรพสินค้า เป็นต้น หรือมีรายได้จากการให้บริการนั้น ซึ่งรวมถึงการได้รับค่าตอบแทนจากการให้บริการนั้นด้วย โดยสิ่งเหล่านี้จะถูกนำมาพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นรายกรณี

ส่วนคนที่ยังสงสัยว่า แล้วเหตุใด ก.ล.ต. จึงต้องเข้าไปกำกับดูแล หรือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ทั้งที่อาจจะเป็นความสมัครใจของผู้ใช้บริการเอง นั่นเพราะการรับแลกเหรียญเป็นการให้บริการกับประชาชน จึงต้องเข้าไปคุ้มครอง เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้ให้บริการมีฐานะการเงิน ตลอดจนระบบงานที่เหมาะสม ผ่านกระบวนการให้ใบอนุญาต 

ดังนั้น หากเป็นผู้ให้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาต อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ใช้บริการ ทั้งในแง่ของการที่อาจจะถูกหลอกลวง (scam) จากมิจฉาชีพ ทำให้สูญเสียทรัพย์สิน และมีความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน ก.ล.ต. จึงเข้าไปดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการ รวมทั้งเป็นการป้องกันและปราบปราม ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต 

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ก.ล.ต. มีการออกข่าวหรือประกาศแจ้งเตือนประชาชน หรือผู้ลงทุนเป็นระยะ เกี่ยวกับการให้บริการที่มีความสุ่มเสี่ยง หรืออาจจะเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังมีการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ ให้ประชาชนสามารถเข้ามาศึกษาเพิ่มเติม เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันต่อภัยกลโกงให้ตนเองได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องย้ำเตือนกันอยู่เสมอคือ ก่อนตัดสินใจใช้บริการต่าง ๆ เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ควรตรวจสอบรายชื่อ ผู้ได้รับใบอนุญาตจากเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. www.sec.or.th/seccheckfirst หรือติดตั้งแอปพลิเคชัน SEC Check First เช็กก่อนเชื่อ และระมัดระวังกลโกง หรือการชักชวนลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ที่อาจใช้วิธีการแอบอ้างว่า เป็นการลงทุนหรือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล 

และถ้าพบว่า มีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ก.ล.ต. ก็จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามกระบวนการที่เกี่ยวข้อง โดยมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 – 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ 

หากประชาชนพบเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย สามารถแจ้งที่ “ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน และแจ้งเบาะแส” โทร. 1207 หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. เพื่อจะตรวจสอบรายละเอียดในเชิงลึกและหากพบว่า มีการฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายต่อไป