ในวันที่หลายคนยังคิดว่า การลงทุนคือ เส้นทางที่ต้องมีแต่กำไร บล็อกเกอร์สาวชื่อดัง เนย ธนพร เจียรนัยกุลวานิช นักลงทุน นักเทรด และเจ้าของเพจ “Stock JourNoey” ที่เป็นบันทึกเรื่องการลงทุนในหุ้น ได้ออกมาเล่าเรื่องจริงแบบไม่มีกั๊ก เรื่องที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ทุกคนที่อยู่ในตลาดต้องเคยผ่านมา นั่นคือ “การขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต” มูลค่ากว่า 1,831,860.56 บาท
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนยโพสต์เล่าเหตุการณ์การ stoploss ครั้งที่หนักหน่วงที่สุดลงบนเพจของเธอ พร้อมเปิดใจว่า มันเจ็บจนเหมือนย้อนกลับไปเห็นตัวเองเมื่อ 7 ปีก่อน ตอนที่ขาดทุนหนักจนต้องรีบโทรไปร้องไห้กับคุณพ่ออีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ตอนเห็นพอร์ตติดลบยังพอทำใจได้ แต่พอถึงวินาทีจะกดขายจริง มือกลับสั่น มือเย็น รู้สึกเหมือนกำลังเถียงกับตัวเองว่าควร “ยื้อ” หรือ “ยอม” กันแน่ และทันทีที่กดขาย น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
เธอเล่าว่า ความเสียใจไม่ใช่เพราะเสียดายเงิน แต่เพราะมันสะท้อนภาพปี 2018 ขึ้นมาอีกครั้ง ปีที่เจ็บจนไม่อยากเปิดพอร์ต ไม่อยากคุยเรื่องหุ้น และแค่เห็นชื่อหุ้นตัวเดิมก็รู้สึกจุก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็เรียนรู้ว่า ทุกอย่างคือ ส่วนหนึ่งของเส้นทางนักลงทุน ไม่มีใครชนะได้ทุกครั้ง
และเพื่อไม่ให้ความผิดพลาดครั้งนี้ “สูญเปล่า” เนยยังได้สรุปบทเรียนสำคัญออกมา 5 ข้อ ที่อาจช่วยให้ใครอีกหลายคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกันกับเธอสามารถยืนขึ้นได้เร็วกว่าเดิม
1. การขาดทุนไม่ใช่เรื่องน่าอาย
ทุกคนต้องเจอ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรือเก่งแค่ไหน สิ่งสำคัญคือเรากล้ายอมรับมันแค่ไหน และกล้าพอที่จะเรียนรู้จากมันหรือเปล่า แผนที่ดีจะไม่มีค่าเลย หากทำไม่ได้ในวันที่มันยากที่สุด และการกล้ากด stoploss ไม่ได้แปลว่าแพ้ แต่คือการ “ปกป้องตัวเอง” จากความเสียหายที่มากกว่า
2. อย่าฝืนถือสิ่งที่เราไม่เชื่อแล้ว
ตอนแรกเรามีเหตุผลในการซื้อ แต่ถ้าวันหนึ่งมันเหลือแค่ “ความหวัง” นั่นไม่ใช่การลงทุนอีกต่อไป
เนยบอกว่า การรอให้มันกลับมาไม่ใช่เรื่องของราคา แต่คือ การรอ “ความสบายใจที่หายไป” ซึ่งบอกเลยว่า ถ้ามันหายไปแล้ว การฝืนถือ ยิ่งเจ็บกว่าเดิม
3. อย่าพยายามเอาคืนตลาดทันที
หลังเจ็บหนัก ความอยาก “รีบเทรดเพื่อแก้แค้นตลาด” มักพังทุกรอบ เพราะจิตใจยังไม่พร้อม ควรพักก่อน ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นซื้อเร็วไป ขายเร็วไป และสุดท้ายยิ่งแย่กว่าเดิม
4. อย่าเปรียบเทียบพอร์ตตัวเองกับใคร
ในวันที่พอร์ตแดง การเห็นคนอื่นกำไร ทำให้เรารู้สึกแย่ได้ง่ายมาก แต่ต้นทุนต่างกัน แผนต่างกัน โชคต่างกัน และจังหวะตลาดไม่เคยซ้ำ อย่าให้การเปรียบเทียบพรากความมั่นใจของตัวเองไป
5. พักได้ แต่ห้ามหายไปเลย
เจ็บได้ ถอยได้ ร้องไห้ได้ แต่สุดท้ายอย่าหายไปจากตลาดนานเกินไป เพราะทุกครั้งที่กลับมา เรามักเก่งขึ้นกว่าเดิมเสมอ เนยเชื่อว่า “ต่อให้แพ้กี่รอบ ร้องไห้กี่ครั้ง ขอแค่ได้กินดี นอนพอ เช้าวันใหม่ เราก็พร้อมสู้ต่อ”
เรื่องราวประสบการณ์ของคุณเนยอาจเจ็บปวด แต่มันสะท้อนความจริงที่นักลงทุนทุกคนต้องยอมรับ ซึ่งการขาดทุนไม่ใช่จุดจบ มันคือบทเรียนที่ทำให้เราแข็งแรงขึ้นในรอบต่อไป
ที่มา : facebook