ประเด็นร้อนในแวดวงการเงินสหรัฐฯ ปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters โดยระบุเงื่อนไขสำคัญสำหรับผู้ที่จะมารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คนต่อไป ต่อจากเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ที่กำลังจะหมดวาระลงในเดือนพฤษภาคม 2026 ว่าจะต้องเป็นบุคคลที่มีจุดยืนสนับสนุนการ “ลดอัตราดอกเบี้ยทันที” เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนและแข็งกร้าวที่สุดครั้งหนึ่งเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินที่ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการเห็น
ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) กำลังจะมีการประชุมสำคัญในวันที่ 10-11 ธันวาคมนี้ ซึ่งแม้ว่าตลาดจะคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% (25 basis points) แต่คำพูดของทรัมป์เปรียบเสมือนแรงกดดันระลอกใหม่ที่ต้องการเร่งเครื่องให้เฟดผ่อนคลายนโยบายการเงินให้ “เร็วและแรง” กว่าแผนเดิมที่เน้นความค่อยเป็นค่อยไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน
การออกมาขีดเส้นตายคุณสมบัติของประธานเฟดคนใหม่ล่วงหน้าเช่นนี้ สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วตลาดการเงิน โดยเฉพาะในหมู่นักลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงและคริปโทเคอร์เรนซี ที่มองข่าวดังกล่าวเป็น “สัญญาณบวก” (Bullish Catalyst) ครั้งใหญ่ เพราะหากแนวคิดการลดดอกเบี้ยแบบเร่งด่วนถูกนำมาใช้จริง ย่อมหมายถึงต้นทุนทางการเงินที่ถูกลงและสภาพคล่องมหาศาลที่จะไหลกลับเข้าสู่ระบบ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีในการผลักดันราคา Bitcoin และตลาดหุ้นให้พุ่งทะยานขึ้นไปอีก
WatcherGuru สื่อด้านการเงินที่นำเสนอประเด็นนี้ตั้งข้อสังเกตว่า ท่าทีของทรัมป์สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้สนับสนุนคริปโทฯ ที่เชื่อว่าสภาพคล่องจากดอกเบี้ยขาลงคือกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อกศักยภาพของตลาดกระทิงรอบใหม่ การเฟ้นหาผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพาวเวลล์ในปี 2026 จึงกลายเป็นสมรภูมิสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกต้องจับตามอง เพราะมันอาจหมายถึงจุดเปลี่ยนของนโยบายการเงินโลกที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ที่มา: @WatcherGuru

