<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“พ่อรวยสอนลูก” เผยหมดเปลือก ! เคยลักลอบถือทองคำตอนอายุ 25 เชื่อเงินนอกระบบคือทางรอดวิกฤต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Robert Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือขายดีระดับโลก “พ่อรวยสอนลูก” ออกมาเล่าย้อนจุดเริ่มต้นเส้นทางการลงทุนของตัวเอง พร้อมย้ำแนวคิดที่เขาเชื่อมาตลอดว่า “คนที่กล้าลงมือก่อน โดยไม่นั่งรอความเชื่อมั่นจากรัฐบาลหรือสถาบันการเงิน คือคนที่จะมีโอกาสรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ”

Kiyosaki ระบุว่า ย้อนกลับไปปี 1965 ตอนเขาอายุเพียงแค่ 18 ปี เขาเริ่มสะสม “เขาเริ่มเก็บสะสม “เหรียญเงินจริง” (Silver) เพราะตอนนั้นรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มเลิกใช้แร่เงินในการผลิตเหรียญกษาปณ์และหันมาใช้โลหะราคาถูกผลิตแทน ทำให้เขามองว่าเหรียญเหล่านั้น “ไม่ใช่เงินจริง” อีกต่อไป 

แนวคิดเดียวกันนี้ ได้นำเขาเข้าสู่วงการทองคำในช่วงต้นทศวรรษ 1970 หลังประธานาธิบดี Richard Nixon ยกเลิกระบบ Gold Standard ในปี 1971 ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์หลุดจากทองคำ และเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ยุคที่ขับเคลื่อนด้วยหนี้ 

ในปี 1972 ตอน Kiyosaki อายุประมาณ 25 ปี เขาจึงตัดสินใจซื้อเหรียญทอง Krugerrand ในราคาเพียง 50 ดอลลาร์ แม้ในเวลานั้น การถือครองทองคำจะยังผิดกฎหมายสำหรับชาวอเมริกันจนเขาต้องลักลอบนำเข้ามาก็ตาม

Kiyosaki ระบุว่า การกระทำทั้งหมดนี้คือ การถือสินทรัพย์ที่อยู่นอกการควบคุมของรัฐ และยืนยันว่าปัจจุบันเหรียญทองที่เขาซื้อมา 50 ดอลลาร์นั้น มีมูลค่าพุ่งขึ้นไปถึง 4,500 ดอลลาร์แล้ว ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่า “Hard Assets” คือ สิ่งที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวได้จริง

ปัจจุบัน Kiyosaki มองว่า สถานการณ์กำลังวิกฤตอีกครั้ง เพราะสหรัฐฯ และญี่ปุ่นกลายเป็นชาติลูกหนี้รายใหญ่ และคนทั่วไปก็แบกหนี้ครัวเรือนหนักมากจนปัญหาคนไร้บ้านเพิ่มขึ้น แม้แต่คนมีงานทำก็ยังไม่สามารถรับมือกับค่าครองชีพได้

เขาย้ำว่า วิกฤตการเงินไม่ได้เกิดขึ้นฉับพลัน แต่สะสมมานานหลายสิบปี การพึ่งพาแค่เงินเดือน  เงินบำนาญ หรือเงินฝากธนาคารเพียงอย่างเดียวจึงเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมาก 

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยังคงแนะนำให้นักลงทุนถือ ทองคำ, เงิน และ Bitcoin ควบคู่กันไป เพราะทั้งหมดคือ “เงินที่อยู่นอกระบบธนาคาร” พร้อมกระตุ้นให้ทุกคนศึกษาและเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่ความเชื่อมั่นในเงินเฟียตจะพังลง

ที่มา:newsbitcoin