<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ฟ้องเดือด! ผู้บริหาร Solana–Pump.fun ถูกกล่าวหาเอื้อคนวงใน หลักฐานคือแชทลับนับพัน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วงการคริปโตกำลังจับตามองคดีใหญ่ เมื่อกลุ่มนักลงทุนเหรียญมีม ยื่นฟ้องผู้บริหาร Solana Labs , Solana Foundation, Jito Labs, Jito Foundation  และ Pump.fun ในข้อหาร่วมกันสร้างระบบที่เอื้อให้คนวงในทำกำไร จนถูกขนานนามว่าเป็น “ตลาดเหรียญมีมแบบล็อกผล” ที่สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนรายย่อย 

ล่าสุดทีมทนายฝั่งโจทก์ยืนยันว่า มีหลักฐานเด็ดเป็น แชทลับกว่า 5,000 ข้อความ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า วิศวกรของ Solana Labs และ Pump.fun ทั้งสองฝั่ง มีการสื่อสารกันแบบเรียลไทม์ เพื่อเชื่อมระบบที่เอื้อประโยชน์ให้คนกลุ่มเดียว

ขณะนี้ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้อนุญาตให้เพิ่มหลักฐานใหม่นี้ ลงในคำฟ้องได้ โดยมีกำหนดเดดไลน์ในวันที่ 7 มกราคม 

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายทนายของ Solana ยังคงเชื่อว่า คดีนี้อาจจะถูกยกฟ้องในที่สุด ขณะที่ Max Burwick ทนายฝั่งนักลงทุนยืนยันจะเดินหน้าต่อเพื่อความโปร่งใสของวงการ แม้จะอ้างว่าตนเองถูกข่มขู่คุกคามชีวิตจากการทำคดีนี้ก็ตาม

“ผม ถูกขู่ฆ่าและข่มขู่เพียงเพราะทำหน้าที่เป็นทนายความตัวแทนให้กับลูกความ ตอนนี้พวกเรากำลังเก็บรวบรวมหลักฐานการข่มขู่ทั้งหมดเอาไว้ และจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

การใช้ความรุนแรงมาข่มขู่แบบนี้ไม่มีทางหยุดยั้งพวกเราจากการทำหน้าที่ทนายความได้ และจะไม่มีทางขัดขวางความตั้งใจของเราที่จะลากตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพื่อสร้างอุตสาหกรรมคริปโตที่ดีกว่าเดิม”

ตามคำฟ้องระบุว่า Pump.fun, Solana และ Jito ทำงานประสานกันเหมือน “องค์กรอาชญากรรม” ที่หลอกให้รายย่อยเข้ามาติดกับ โดยมีการเปรียบเทียบว่า Solana เป็นเหมือนคาสิโน ส่วน Pump.fun เป็นเหมือนตู้สล็อต และ Jito เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนวงในสามารถ “แซงคิว” เข้าไปกวาดซื้อเหรียญได้ก่อนใคร 

แม้จะโฆษณาว่า เป็นการเปิดตัวที่ยุติธรรม (Fair Launch) และไม่มีการโกง แต่ในทางปฏิบัติ กลับมีคู่มือสอนให้คนวงในใช้ระบบลับ เพื่อแย่งซื้อโทเคนตัดหน้าคนธรรมดา ทำให้พวกเขาสามารถคุมกำไรได้แบบเบ็ดเสร็จ

ความเสียหายต่อผู้เล่นรายย่อย ถูกประเมินว่า อาจสูงถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ แม้ปัจจุบันกระแสจะแผ่วลง จนราคาโทเคนที่เกี่ยวข้องร่วงหนัก แต่ระบบนี้ก็ยังทำเงินมหาศาลจากค่าธรรมเนียม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้ง Jito และ Solana ในการปั่นปริมาณธุรกรรมและผลักดันราคาเหรียญ SOL ในช่วงที่ผ่านมา 

กลายเป็นระบบที่หน้าจอโชว์ความโปร่งใส แต่หลังบ้านกลับมี “ประตูลับ” ให้คนวงใน ทำกำไรได้ตลอดเวลา

ด้านฝั่งโจทก์ไม่ได้ต้องการเพียงแค่เงินชดเชยจากความเสียหายเท่านั้น แต่ยังยื่นคำขอต่อศาล ด้วยมาตรการที่รุนแรงระดับ “ถอนรากถอนโคน” โดยต้องการให้ศาลสั่ง เข้าควบคุมกิจการ ของบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และสั่งให้หยุดให้บริการทันที จนกว่าจะได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจการพนัน และใบอนุญาตโอนเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย 

นอกจากนี้ยังบังคับให้ต้องมีการตรวจสอบตัวตน (KYC/AML) อย่างเข้มงวด และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องคืนผลประโยชน์ทั้งหมดที่ได้มาโดยมิชอบ ซึ่งรวมไปถึงมูลค่าของเหรียญ SOL ที่เพิ่มขึ้นจากกระแสนี้ด้วย 

ข้อเรียกร้องเหล่านี้ถือว่าหนักหน่วงมากจนอาจส่งผลให้โปรเจกต์ยักษ์ใหญ่หลายแห่งต้องปิดตัวลง หากศาลตัดสินตามคำขอนี้

ทางด้าน Solana และ Pump.fun ได้ยื่นขอให้ศาลยกฟ้อง โดยโต้แย้งว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมด “ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน” เป็นเพียงการบรรยายความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ไม่สามารถระบุได้ว่า คนวงในทำผิดกฎหมายอย่างไร 

ส่วนคำโฆษณาที่ว่าระบบ “ปลอดภัย” หรือ “ไม่มีการโกง” นั้น ฝั่งจำเลยมองว่า เป็นเพียง การโฆษณาเกินจริง ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้ฟ้องร้องทางกฎหมายได้ 

นอกจากนี้ Jito ยังกล่าวเสริมว่า ซอฟต์แวร์ของตนถูกสร้างมานานแล้ว และเปิดให้ทุกคนใช้งานได้อย่างเท่าเทียม ไม่ใช่เครื่องมือลับเฉพาะกลุ่มอย่างที่ถูกกล่าวหา

ที่สำคัญ ฝั่งจำเลยย้ำว่า การที่โปรเจกต์ต่าง ๆ มีกลุ่มนักลงทุนรายเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่า มีการสมรู้ร่วมคิดเพื่อกระทำความผิด ซึ่งในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ศาลได้ถอดชื่อ Jito และผู้บริหารออกจากคดีไปแล้วรอบหนึ่ง เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ โดยฝั่ง Pump.fun เชื่อมั่นว่า การกล่าวหาลอย ๆ โดยไม่มีตัวอย่างการกระทำผิดที่จับต้องได้ จะทำให้คดีนี้ถูกปัดตกไปในที่สุด

ที่มา : dlnews