<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทรัมป์ลั่น ! ใครไม่ทำตามคำสั่งเรื่องดอกเบี้ย “ไม่มีวันได้เป็นประธานเฟด”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาประกาศจุดยืนอย่างแข็งกร้าวผ่าน Truth Social โดยระบุชัดเจนถึงการวาง “กฎของทรัมป์ (The Trump Rule) ” สำหรับการคัดเลือกประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งผู้ที่จะมารับตำแหน่งนี้ ต้องมีความเห็นสอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจของเขาเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้ดี เพื่อไม่ให้เป็นการขัดขวางการเติบโตที่อาจพุ่งสูงถึงเลขสองหลัก 

ทรัมป์ยังแสดงความภูมิใจ ต่อตัวเลข GDP ที่โตเกินคาดถึง 4.2% พร้อมวิจารณ์ว่า นโยบายที่ผิดพลาดต่างหาก ที่เป็นต้นเหตุของเงินเฟ้อ ไม่ใช่ตลาดที่แข็งแกร่ง 

“ข่าวเศรษฐกิจวันนี้ ยอดเยี่ยมมาก GDP โต 4.2% จากที่คาดแค่ 2.5% ทั้งที่เจอแรงกดดันจากภาวะชัตดาวน์ของเดโมแครต !”

“ตลาดแข็งแรงไม่ได้ทำให้เกิดเงินเฟ้อ นโยบายห่วย ๆ ต่างหากที่ทำให้เกิด”

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังตำหนิแนวทางเดิมของเฟดที่มักจะใช้มาตรการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดความร้อนแรงทุกครั้งที่ตลาดหุ้นพุ่งทะยาน โดยเน้นย้ำว่า ประธานเฟดภายใต้รัฐบาลของเขา จะต้องไม่ทำลายการเติบโตของตลาดโดยไม่จำเป็น และต้องพร้อมใช้มาตรการลดดอกเบี้ย เพื่อหนุนการเติบโต แม้จะต้องเผชิญกับประเด็นเงินเฟ้อในภายหลังก็ตาม

“ผมต้องการประธานเฟดที่จะลดดอกเบี้ย เมื่อเศรษฐกิจกำลังดี ไม่ใช่พังตลาดโดยไม่จำเป็น ใครไม่เห็นด้วย ไม่มีทางได้นั่งเก้าอี้ประธานเฟด!”

ทรัมป์ยังแสดงความมั่นใจว่า หากธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่เข้ามาแทรกแซงด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยผิดจังหวะ เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสามารถปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริง จนผลักดันให้ GDP พุ่งสูงขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก โดยจะเพิ่มขึ้นไปได้ถึง 10, 15 หรือ 20 จุดภายในหนึ่งปี หรืออาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ!

ที่มาภาพ : truthsocial

ด้าน Kevin Hassett ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติและตัวเต็งประธานเฟดคนใหม่ ได้ออกมาวิจารณ์เฟดผ่าน CNBC ว่า เฟดกำลังดำเนินนโยบายปรับลดดอกเบี้ยที่ “ช้าเกินไป” เมื่อเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยชี้ให้เห็นว่า เทคโนโลยี AI ได้เข้ามาช่วยยกระดับประสิทธิภาพการผลิต และลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ขณะที่นโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ก็ช่วยลดการขาดดุล และผลักดันให้ GDP ไตรมาส 3 ปี 2025 เติบโตถึง 4.3% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก 

แม้ล่าสุดเฟดจะตัดสินใจลดดอกเบี้ย 0.25% เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการลดครั้งที่สามของปี แต่ท่าทีที่ระมัดระวัง และเสียงคัดค้านจากผู้ว่าการเฟดถึง 3 ท่าน ก็สะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกภายในที่ชัดเจนที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 

Hassett ถูกมองว่า เขาอาจจะเข้ามาแทนที่ Jerome Powell ที่จะหมดวาระในเดือนพฤษภาคม 2026 เพื่อผลักดันนโยบายดอกเบี้ยต่ำ ตามแนวทางของทำเนียบขาว

ในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเตรียมเปิดเผยชื่อประธานเฟดคนใหม่ช่วงต้นปี 2026 โดยเน้นย้ำคุณสมบัติสำคัญว่า จะต้องเป็นผู้ที่สนับสนุนแนวทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจน เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่ชาวอเมริกันกำลังเผชิญ

ที่มา : cryptopolitan