(31 ธ.ค. 2025) – วงการสินทรัพย์ดิจิทัลเอเชียใต้จับตามอง เมื่อ Changpeng Zhao หรือ “CZ” อดีตซีอีโอ Binance ได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจว่า “ปากีสถาน” มีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านคริปโทเคอร์เรนซีระดับโลกได้ภายในปี 2030 หากยังคงรักษาอัตราเร่งในการพัฒนาเช่นนี้ต่อไป ปัจจุบัน CZ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาให้กับสภา Crypto Council ของปากีสถาน ได้ชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือ จากประเทศที่เคยมีคำสั่งแบนคริปโทฯ ในปี 2018 สู่การเปิดกว้างทางกฎระเบียบอย่างรวดเร็วในปี 2025
ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญคือการปูรากฐานโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมายอย่างจริงจัง ล่าสุดปากีสถานได้จัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์เสมือน (PVARA) และออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจให้กับกระดานเทรดยักษ์ใหญ่อย่าง Binance และ HTX เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในดีลการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน (Tokenization) พันธบัตรรัฐบาลมูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ ร่วมกับ Binance เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ถือเป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนว่ารัฐบาลปากีสถานเอาจริงเอาจังกับการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล
จุดแข็งที่เป็นแต้มต่อสำคัญคือโครงสร้างประชากร (Demographics) โดยปากีสถานมีค่ามัธยฐานอายุประชากรเพียง 23 ปี ซึ่งเป็นวัยที่พร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ผสานกับอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่สูง ทำให้ข้อมูลจาก Chainalysis เคยจัดอันดับให้ปากีสถานเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้งานคริปโทฯ (Adoption) สูงที่สุดในโลก แม้ว่าจะยังมีความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพอยู่ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่การเป็นมหาอำนาจคริปโทฯ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ผู้เชี่ยวชาญยังคงแสดงความกังวลเรื่องธรรมาภิบาลและความชัดเจนของกฎหมาย โดยรายงานจาก Free and Fair Election Network ปี 2025 ชี้ว่ากฎระเบียบของ PVARA ยังมีเกณฑ์การปฏิบัติตามที่คลุมเครือ และการประสานงานระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลยังอ่อนแอ ซึ่งหากรัฐบาลไม่เร่งแก้ไขจุดบอดเหล่านี้ ความเสี่ยงด้านการบริหารจัดการอาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งไม่ให้คำทำนายของ CZ เป็นจริงได้
ที่มา: @Cointelegraph

