ทางเว็บ CryptoSlate ได้เปิดเผยการสัมภาษณ์ของผู้ตรวจสอบ LUNA และ นาย Akiba คนสัมภาษณ์ของสื่อ CryptoSlate เกี่ยวกับประเด็นการล่มสลายของ LUNA และการเปิดตัว LUNA 2.0
CryptoSlate ได้พูดคุยกับผู้ตรวจสอบ Luna หลายคนที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตัว LUNA 2.0 เพื่อให้ทราบถึงเบื้องหลังที่เกิดขึ้น ทางผู้ตรวจสอบได้บอกเกี่ยวกับข้อมูลของ Terraform Labs และการมีส่วนร่วมของ Do Kwon และได้คุยว่า LUNA 2.0 กำลังไปถูกทางหรือไม่
บทสัมภาษณ์กับทางผู้ตรวจสอบ LUNA (PFC)
Akiba (CryptoSlate): คุณรู้สึกว่าทางกลุ่ม Terra สามารถคุยกันเพื่อตกลงแผนการเปิดตัว LUNA 2.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่?
PFC:พวกเราหลายคนต้องรับมือกับความสูญเสียครั้งใหญ่ กลุ่ม TG มีความท้าทายหลายอย่างเกิดขึ้น และมีการพูดคุยกันตลอดเวลาในขณะที่หลาย ๆ คนกำลังนอนหลับ แต่เนื่องจากไม่มีใครคิดว่าจะเกิดการประชุมแบบ War room ขึ้น จึงไม่ได้มีใครมาคอยจดสรุปสิ่งที่พวกเราได้พูดกัน และพวกเราส่วนใหญ่ก็มีสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องทำ แต่สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยดี”
Akiba (CryptoSlate): คุณรู้สึกว่าเวลาทำงานต้องผ่านความเห็นของนาย Do Kwon และทาง TFL ก่อนหรือไม่
PFC:ในความคิดของผม นาย Do Kwon และทาง TFL ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรมากนัก
Akiba (CryptoSlate): คุณเชื่อว่า LUNA Classic มีอนาคตหรือไม่?
PFC:ผมไม่คิดว่ามันจะมีอนาคตมากนัก แต่ผมก็ยังคอยตรวจสอบ LUNA Classic อยู่ตลอด และผมจะทำแบบเดิมต่อไปจนกว่าจะไม่มีใครใช้มัน เพราะยังมีกลุ่มคนที่รู้ว่ามันยังทำงานต่อไปได้ใช้งานมันอยู่
Akiba (CryptoSlate): มีอะไรที่คุณรู้สึกว่าควรเปิดเผยต่อสาธารณะไหม
PFC:มีการคุยกันมากมายเกิดขึ้น แต่ผมไม่คิดว่ามันไม่ว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนสักเท่าไหร่ การพูดคุยส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการซุบซิบ หรือบางครั้งก็มีไอเดียดี ๆ ขึ้นมาก และเราก็จะถามความเห็นจากสมาชิกที่ไว้ใจได้ ผมได้มีส่วนร่วมในการเสนอว่าใครควรเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องคนแรก และผมไม่ชอบการสนทนานั้น มันควรถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชน แต่ถ้าทำแบบนั้นมันก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
Akiba (CryptoSlate): คุณคิดว่ามีเวลาเพียงพอหรือไม่? ในการเตรียมตัวสำหรับการเปิดตัว LUNA 2.0 ที่ใช้เวลาเพียง 2-3 วัน?
PFC:ผมคิดว่าการเลือกใครเป็นผู้ตรวจสอบนั้นรีบร้อนเกินไป พวกเราเคยเจอคนที่อ้างว่าเป็นผู้ตรวจสอบจากเครือข่ายอื่น ประมาณ 1-2 คน ที่ไม่มีประสบการณ์ในการตรวจสอบเลย
Akiba (CryptoSlate): คุณคิดว่า LUNA 2.0 เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่? และการ Snapshot ทำถูกเวลาหรือไม่?
PFC:เราต้องรอดูกันต่อไป ผมชอบแนวคิดของการให้สิทธิ Community ในการตัดสินใจต่าง ๆ เช่น เรื่องที่แผนที่จะรักษาชนชุมเดิมไว้ แต่ด้วย USDT ที่กำลังจะเข้ามา อาจจะทำให้มีผลกระทบอื่น ๆ ตามมาได้
จากบทสัมภาษณ์ทำให้เราทราบว่าทาง Terra ยังมีปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ แต่ก็ทำให้เรารู้ว่าพวกเขาได้ทำเต็มที่แล้วในเวลาเพียงไม่กี่วัน พวกเขาต้องเผชิญกับความสูญเสียมูลค่ามหาศาลในตอนที่กำลังพยายามรักษาชุมชนของเขา นี่เป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราเห็นว่าคนที่สูญเสียมีทั้งผู้ที่เข้ามาลงทุนและทั้งเจ้าของโปรเจค
ดูเหมือนว่าจะไม่มีหลักฐานว่าผู้ตรวจสอบความถูกต้องได้ดำเนินการบางอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเองหรือไม่ แต่ตอนนี้ทำให้เรารู้ว่าพวกเขาต้องทำงานตลอดทั้งคืนในช่วงที่เกิดวิกฤต และมีความกดดันอย่างรุนแรง มีนักพัฒนาหลายคนจากหลายประเทศต้องมาทำงานร่วมกันโดยมีเวลาพักเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ นอกจากนี้ตามที PFC บอก พวกเขาต้องทำงานควบคู่ไปกับการรับผิดชอบในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ความยืดหยุ่นของระบบ Blockchain
จากข้อมูลของ PFC ทำให้เรารู้ว่าอนาคตของ LUNA Classic นั้นมีไม่มากนั้น โดยบริษัทมองว่า Chain เดิมนั้นไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพตลาดในปัจจุบันได้ การปิดตัว LUNA และเปิดตัว LUNA 2.0 อาจจะเป็นที่พูดถึงกันอีกยาวนาน โดย THORchainMaximalist หนึ่งในผู้ตรวจสอบของ Terra เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีศึกษาที่ดีของระบบ Blockchain โดยเขาได้บอกว่า
“ในตอนที่เกิดวิกฤต Lehman Brothers ในปี 2008 ทั้งโลกนำเงินออกจาก ATM เพียงไม่กี่วัน ทำให้ทางหน่วยงานกำกับดูแลต้องเข้าแทรกแซงโดยการอัดฉีดเงิน 7 แสนดอลลาร์ในตลาดทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านทาง AIG
นักลงทุนใน Lehman ได้เสียเงินของพวกเขาทั้งหมดเหมือนกับเหตุการณ์ LUNA และ UST โดย Market Cap ของ LUNA และ UST มีมูลค่ามากกว่า AIG โดยในตอนนี้ Protocol ของ LUNA ก็ยังทำงานตามที่ตั้งไว้อยู่ Smart Contact ของพวกเขาจะทำงานต่อไปเรื่อย ๆ การออกแบบที่ให้ทุกอย่างทำตามที่กำลังไว้ในตอนแรกจะทำให้มีความเชื่อถือมาก แต่การออกแบบที่มีความยืดยุ่นที่มากขึ้นสามารถปรับให้เข้ากลับเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ อาจจะทำให้มีความเชื่อถือที่น้อยลง
ในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์การล่มสลายของ Terra ทำให้นักลงทุนเสียเงินทั้งหมดไปกว่า 1 หมื่นดอลลาร์ ถ้าหากเหตุการณ์การล่มสลายนี้มีสาเหตุมาจากการโกงของเจ้าของโปรเจค พวกเขาอาจจะต้องไปเจอนักลงทุนกันในศาล”