ในเดือนพฤษภาคมพบว่า จำนวนเหรียญ USDC และ BUSD บนเว็บเทรดทั่วโลกได้ร่วงลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม จำนวนของทั้งเหรียญทั้งสองได้ดีดตัวขึ้นหลังจากนั้นและใกล้ที่จะหวนสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลตามลำดับ
ในช่วงไตรมาสที่ 2 อุปทานรวมของเหรียญ Stablecoin บนเว็บเทรดร่วงแตะจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีการถอนเหรียญ Stablecoin ออกจากเว็บเทรดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
Lucas Nuzzi หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ CoinMetrics ได้ทำการทวีตถึงสิ่งที่อาจจะเป็นสาเหตุเบื้องหลังที่ทำให้มีการถอน Stablecoin เพิ่มมากขึ้นผ่าน Twitter เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน โดยมีกราฟแสดงอุปทานของ Stablecoin ทั้งหมดตั้งแต่เดือนมกราคม 2020
“ไตรมาส 2 ของปี 2022 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่อุปทานรวมของเหรียญ Stablecoin ลดลง ต่อให้ไม่นับรวม UST ก็ตาม ซึ่งมีการถอนมากกว่าเงินหมื่นล้านดอลลาร์ โดยตรงจากบัญชีกระเป๋าของเจ้ามือรายใหญ่”
โดยมี DAI, UDST, OMNI และ TRON, SAI, USDK, PAX ในขณะที่ USDC ของ Circle และ BUSD ของ Binance ถูกรวมเป็นกราฟแยกต่างหาก และ UST ของ Terra ก็ไม่ถูกรวมอยู่ในกราฟ
Nuzzi ตั้งข้อสังเกตว่า Tether เป็นเหรียญที่ถูกถอนมามากที่สุดในบรรดาผู้ออกเหรียญ Stablecoin โดย USDT ได้ถูกนักลงทุนได้ถอนออกจากเว็บเทรด ทั้งหมด 7 พันล้านเหรียญในเดือนเมษายนและพฤษภาคม
“การลดลงนั้นบ่งชี้ว่ามีคนบางกลุ่มเล็ก ๆ อยู่เบื้องหลัง” เขากล่าว
การล่มสลายของระบบนิเวศ Terra รวมถึงโทเค็น LUNA ดั้งเดิมและ UST stablecoin ในเดือนพฤษภาคม ใกล้เคียงกับ USDT ของ Tether ที่หลุด peg กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐประมาณ 5% เป็นผลให้มีการถอนประมาณ 7 พันล้าน USDT เนื่องจากเจ้ามือต้องการออกจากตลาดและหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นองเลือดที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม
อีกโครงการหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคือ DAI ของ MakerDAO ซึ่งอุปทานที่ถูกเลิกใช้กว่า 40% เป็นผลมาจาก “เหตุการณ์ liquidateครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”
USDC และ BUSD รวมอยู่ในกราฟที่แยกจากกัน และยังแสดงอุปทานที่ลดลงอย่างมากประมาณ 5 พันล้านในเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ได้ดีดตัวขึ้นและใกล้จะกลับสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ 6.5 หมื่นล้าน และ 4.8 หมื่นล้าน
สภาวะตลาดที่ค่อนข้างย่ำแย่ในปี 2022 สามารถอธิบายได้ว่าทำไมผู้ใช้ Stablecoin ถึงแห่ถอนเงินออกจากเว็บเทรดในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
จนถึงตอนนี้ตลาดคริปโตได้เผชิญกับเหตุการณ์อย่างการล่มาลายของระบบนิเวศ Terra ทำให้เกิดความผิดพลาดมูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งปัจจุบันแพลตฟอร์ม Celsius และ บริษัท ร่วมทุน Three Arrows Capital กำลังดิ้นรนต่อสู้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะการล้มละลายอันเนื่องมาจากการรายงานการถูก liquidate
Tether ซึ่งลงทุนในแพลตฟอร์ม Celsius ผ่านหุ้นมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 และกู้เงิน 1 พันล้านดอลลาร์กับบริษัทเมื่อปีที่แล้ว ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ราคาที่ลดลงของเหรียญประจำของแพลตฟอร์ม Celsius และปัญหาวิกฤตสภาพคล่องของบริษัทจะ “ ไม่กระทบต่อเงินสำรองของ Tether