ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาโทเค็นของ Ripple (XRP) ได้ราคาโทเค็น Ripple (XRP) ได้พุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากข่าวลือที่แพร่สะพัดเกี่ยวกับความคืบหน้าของการอนุมัติ XRP ETF
ย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Ripple Labs บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง XRP ต้องเผชิญกับคดีความหลายครั้งกับสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) ซึ่งส่งผลให้ราคาโทเค็นร่วงลงอย่างรุนแรงหลายครั้ง แต่หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง พร้อมกับกระแสข่าวว่า Gary Gensler ประธาน SEC คนปัจจุบัน เตรียมจะลงจากตำแหน่งในปีหน้า ก็ทำให้อุปสงค์ในตลาดของ XRP ดูสดใสขึ้นทันที สร้างความหวังใหม่ให้กับนักลงทุน
ดังนั้นลองมาดูกันว่าหากคุณลงทุนใน XRP ตั้งแต่วันที่คดีความกับ SEC เริ่มต้นขึ้น คุณจะได้ผลตอบแทนมากเพียงใด สมมติว่าคุณลงทุนด้วยเงิน $1,000 (ประมาณ 35,000 บาท) ในการซื้อ XRP ที่ราคา $0.41055 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2020
จนถึงวันนี้ เงินลงทุนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นถึง 741% ทำให้ $1,000 กลายเป็น $8,409 (ประมาณ 290,000 บาท) ซึ่งถือว่าเป็นผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในหุ้นแบบดั้งเดิมอย่างมาก
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณนำเงินจำนวนเท่ากันไปลงทุนใน SPDR S&P 500 ETF ซึ่งเป็นกองทุนที่สะท้อนผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 คุณจะได้ผลตอบแทนเพียง 59.4% ในระยะเวลา 4 ปี เรียกได้ว่า XRP ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นกว่าอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามแม้มูลค่าของ XRP จะเพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาลแต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับสถิติสูงสุดเดิมที่ $3.84 ในเดือนมกราคม 2018 ซึ่งสิ่งนี้เป็นการเน้นย้ำว่าคริปโตเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนและความเสี่ยงสูง แม้จะทำกำไรได้มากแต่ก็มีโอกาสขาดทุนได้มากเช่นกัน ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้พร้อมก่อนทำการลงทุน
ที่มา : Benzinga