เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (เวลาสหรัฐฯ) ศิลปินต่าง ๆ ทั่วโลกต่างได้จับจ้องไปงานประกาศผลรางวัลแกรมมี่ประจำปี 2025 เพื่อที่จะได้ทราบว่าศิลปินรายใดจะเป็นที่สุดของปีนั้น ๆ ซึ่งในปีนี้ก็มีความพิเศษกว่าปีก่อน ๆ เพราะมีเพลงที่ได้รับการช่วยเหลือโดย AI ชนะรางวัลดังกล่าว เกิดเป็นคำถามและประเด็นร้อนมากมายถึงความน่าเชื่อถือของแกรมมี่
สำหรับผู้ชนะรางวัลในสาขา “เพลงร็อกที่โดดเด่นที่สุด” ในปีนี้ตกเป็นของ Now and Then จากวงดนตรี “The Beatles” วงดนตรีสุดคลาสสิก หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อของ “สี่เต่าทอง” โดยแม้ตัวของวงดนตรีจะแยกทางกันไปนาน และสมาชิกบางคนก็ได้จากโลกนี้ไปแล้วแต่บทเพลงของพวกเขายังคงอยู่ด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยี AI
ข้อมูลเปิดเผยว่าเพลงดังกล่าวเป็นเพลงที่ไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณะเนื่องจากยังแต่งไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งอดีตนักร้องนำอย่าง John Lennon เคยได้บันทึกตัวอย่างเพลงเอาไว้ตั้งแต่ปี 1978 หรือ 2 ปีก่อนการลอบสังหาร ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาสมาชิกในวงต่างพยายามผลักดันให้เพลงนี้เสร็จสิ้นแต่ก็ไม่สามารถแก้ไขในเรื่องของเสียงร้องของ Lennon ได้
กาลเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปหลายทศวรรษ จนสุดท้ายเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI ได้เข้ามาช่วยเหลือด้านการปรับคุณภาพ ทำให้เพลงดังกล่าวซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายของ The Beatles เสร็จสมบูรณ์ทำให้การชนะรางวัลแกรมมี่ในปีนี้เป็นครั้งแรกที่เพลง AI คว้าชัยชนะบนเวทีดังกล่าว
ทั้งนี้สิ่งที่ AI เข้าไปแก้ไขในตัวเพลงของ Now and Then ไม่ใช่ generative AI เหมือนที่ใครหลายคนคาด (ให้ AI เลียนเสียง หรือคิดเนื้อร้องเอง) กลับกันทาง The Beatles ยืนยันว่า AI ได้เข้ามาทำหน้าที่แค่เพียงปรับคุณภาพเสียงของ Lennon ที่เคยบันทึกไว้แล้วเท่านั้น
อย่างไรก็ตามไม่ใช่อุตสาหกรรมเพลงที่ได้เริ่มมีการใช้ AI ในผลงาน แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็มีการใช้งาน AI เช่นกัน เห็นได้จากหนึ่งในผู้ชิงรางวัล Best Picture ในเวที่ Oscars ปีนี้อย่าง The Brutalist และ Emilia Perez ถูกวิจารณ์เป็นอย่างหนักเนื่องจากใช้ AI เข้ามาดัดแปลงทำให้นักแสดงสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้เหมือนจริงขึ้น ดังนั้นในอนาคตเราอาจได้เห็นการใช้ AI ในหลายอุตสาหกรรม
ที่มา : Decrypt