ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยี AI ได้เป็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ซึ่งโดยทั่วไปเราก็มักจะเชื่อกันว่าคนที่สามารถสร้างแอปไปได้จะต้องเป็นโปรแกรมเมอร์สุดเทพที่มีประวัติการทำงานยาวนานหลายทศวรรษ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีวัยรุ่นคนหนึ่งในสหรัฐฯ ก็สามารถสร้าง AI และนำเครื่องมือนี้มาแปลงเปลี่ยนเป็นธุรกิจได้เช่นกัน
Arib Khan เป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่วัยเยาว์ ด้วยวัยอายุเพียง 15 ปี เขาก็เริ่มก้าวเข้ามาอยู่ในวงการเทคสตาร์ทอัพแล้ว ในขณะที่เด็กคนอื่น ๆ ยังเพิ่งที่จะเริ่มเข้ามัธยมปลาย และเพียงปีเดียวหลังจากนั้น ในช่วงอายุ 16 ปี Khan ได้ไปร่วมงานกับ Buildspace ทำให้เขาเริ่มเขียนโค้ดเป็น และทำโปรเจกต์ยิบย่อยต่าง ๆ มาโดยตลอด กลายเป็นว่าตอนนี้เขาไม่ใช่วัยรุ่นธรรมดาอีกต่อไปแล้้ว แต่เริ่มฉายแววการเป็นนักธุรกิจเต็มตัว
เมื่อวัยอายุได้ประมาณ 18-19 ปี Khan ได้เกิดปิ๊งไอเดียใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เขาได้รู้ถึงการมีอยู่ของเทคโนโลยี Voice Style Transfer ซึ่งเป็นโปรแกรมถ่ายโอนเสียง ที่เขาศึกษาจากงานวิจัยจากจีน ในช่วงปี 2023 ซึ่งขณะนั้นเองก็เป็นช่วงที่เพลง AI เริ่มกำลังเป็นไวรัลเขาจึงมองเห็นโอกาสในการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ใครก็สร้างเพลงได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐาน
Khan ใช้เวลาเพียง 7 วันเท่านั้นในการสร้างโปรโตไทป์ตัวทดลองของแอป และเปิดตัวในชื่อของ Musicfy beta ในเดือนเมษายน 2023 และได้นำผลงานไปโปรโมทผ่านแอปยอดนิยมอย่าง Discord ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม มีผู้ขอเข้าใช้งานกว่า 100,000 ราย ใน 2 สัปดาห์
ทว่า อุปสรรคแรกที่เขาต้องเผชิญก็โผล่มาทันที คือ เรื่องของค่าใช้จ่ายในการใช้งาน GPU จำนวนมาก นั่นจึงทำให้ Khan ต้องเรียกเก็บค่าบริการจากผู้ใช้ ซึ่งผลลัพธ์ก็ไม่ได้ออกมาแย่มากนยักและมีคนยอมจ่ายเงินรวมกันกว่า 2,000 ดอลลาร์ในวันแรก แสดงให้เห็นว่าโปรเจกต์นี้ “ขายได้”
1 เดือนถัดจากนั้น Khan และ Musicfy ก็เผชิญกับพายุลูกที่สองทันที เพราะค่ายเพลงดังต่าง ๆ ส่งจดหมายเตือนให้หยุดใช้งานเข้ามายังทางแพลตฟอร์ม นั่นจึงทำให้ Khan เร่งแก้เกมโดยการปรับวิธีการทำงาน ลบเสียงศิลปินดังทันที เพื่อป้องกันปัญหาลิขสิทธิ์ และหันไปให้ผู้ใช้เทรนเสียงตนเอง และสร้างเสียงใหม่ขึ้นมาทดแทนเพื่อทำให้แพลตฟอร์มเกิดความยั่งยืนในระยะยาว
ด้วยในระยะเวลาเพียง 1 ปีหลังจากเปิดตัว Musicfy สามารถดึงผู้สมัครมาได้เป็นจำนวนมากถึง 4 ล้านบัญชี และยังสามารถดึงคนดังระดับโลก อย่าง Louis Bell โปรดิวเซอร์ผู้เคยร่วมงานกับศิลปินดัง เช่น Taylor Swift มาใช้งานแพลตฟอร์ม รวมถึงมีพาร์ทเนอร์ทั่วโลกนับพันราย ทั้ง ๆ ที่ทีมหลังบ้านยังมีขนาดเล็ก
ปัจจุบัน Musicfy ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำรายได้เฉลี่ยได้สูงถึงเดือนละ $170,000 (5-6 ล้านบาท) ต่อเดือน ซึ่งแผนขั้นถัดไปของ Khan คือการนำแพลตฟอร์มของเขาไปยังตลาด B2B เพื่อเจาะตลาดเกม แอนิเมชัน และภาพยนตร์มูลค่านับแสนล้านดอลลาร์ พร้อมพัฒนาโมเดลคุณภาพสูง และการสร้างชุมชนของสร้างคอนเทนต์ครีเอเตอร์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ที่มา : Starter story