ดูเหมือนว่านับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา นักเทรดส่วนใหญ่ยังคงมองว่าตลาดคริปโตอยู่ในช่วงขาลง ในขณะที่อัตราเปิด Long และ Short Position ของ Bitcoin ร่วงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 10 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ได้เปลี่ยนไปในทันที หลังจากที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับแนวต้าน 11,000 ดอลลาร์
เมื่อใดก็ตามที่ความผันผวนของราคา Bitcoin นั้นต่ำเกินไป เมื่อนั้นมันจะส่งสัญญาณบ่งบอกว่านักเทรดกำลังมีความพึงพอใจที่ระดับราคาในปัจจุบัน ซึ่งสิ่งนี้มักจะแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของตลาดในระยะสั้น
สำหรับนักเทรดมืออาชีพความผันผวนเป็นตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงความกลัวของตลาด เนื่องจากมันชี้ให้เห็นถึงค่าพรีเมียมโดยเฉลี่ยที่จ่ายไปในตลาดออปชั่น ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาอย่างฉับพลัน (ทั้งเชิงลบและเชิงบวก) มักจะทำให้ตัวชี้วัดดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาราคา Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ในช่วงระหว่าง $ 10,400 – $ 10,900 และสัญญา BTC Futures ก็มีมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นกว่า 300 ล้านดอลลาร์ นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดเงียบสงบ แต่นักเทรดก็ยังคงเพิ่มเงินเดิมพันของพวกเขามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ค่าพรีเมี่ยมส่งสัญญาณว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
ผู้ขายสัญญาฟิวเจอร์มักจะเรียกร้อง “ค่าพรีเมียม (Premium)” บนเว็ปเทรดแบบ Spot โดยกรณีนี้เกิดขึ้นกับตลาดฟิวเจอร์ทุกแห่ง นอกจากนี้ผู้ขายยังมีแนวโน้มที่จะเลื่อนวันครบกำหนดชำระสัญญาออกไปอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตลาดขาขึ้นส่วนใหญ่จะมีอัตราค่าพรีเมี่ยมอยู่ที่ 5 – 15% ต่อปี แต่ในทางกลับกันหากตลาดฟิวเจอร์สมีการซื้อขายที่ต่ำกว่าเว็ปเทรดแบบสปอต มันจะเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นแล้วว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาลง
จากกราฟด้านบนแสดงให้เห็นว่า ครั้งสุดท้ายที่ตลาด BTC Future มีค่าพรีเมี่ยมอยู่ที่ 15% ก็คือเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมและนับตั้งแต่นั้นมาตลาดก็ยังคงมีอัตราค่าพรีเมี่ยมที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
นักเทรดมีการเปิด Long อยู่ที่ประมาณ 20%
แม้ว่าตลาดฟิวเจอรส์แต่ละแห่งจะมีความสมดุลระหว่างผู้ซื้อ (longs) และผู้ขาย (short) แต่การเปิด position ของบรรดาเหล่าเจ้ามือ ก็ดูเหมือนว่าจะแตกต่างไปจากนักเทรดรายย่อย
โดยปกติแล้วการรวบรวมข้อมูล Postion ของเหล่าเจ้ามือหรือวาฬจะช่วยให้เราสามารถสรุปได้ว่าการเดิมพันของพวกเขาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงมากกว่ากัน
จากข้อมูลของ OKEx อัตราส่วน Long-to-Short ของเจ้ามือบนเว็ปเทรดอยู่ในจุดต่ำสุดที่ 0.75 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าเจ้ามือมีการเปิด Short Position อยู่ที่ราว ๆ 25% และสามารถตีความได้ว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาลง
แต่อย่างไรตามในอีก 24 ชั่วโมงต่อมาพวกเขาไม่เพียงแต่ปิด Short Position เท่านั้น แต่ยังเปิด Long เพิ่มขึ้น 25% อีกด้วย ซึ่งนี่เป็นตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงการฟื้นตัวของตลาดในระยะสั้น
เช่นเดียวกับข้อมูลของ Binance ที่ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์คล้าย ๆ กัน เนื่องจากอัตราส่วน Long to Short ของเหล่าเจ้ามือได้เพิ่มขึ้นจาก 9% เป็น 23% ในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน เป็นที่น่าสังเกตว่าวิธีการเปิด Position ระหว่างเว็ปเทรดนั้นจะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราควรตรวจสอบไปที่การเปลี่ยนแปลงของสถานะ Position แทนที่จะเป็นจำนวนสัญญาฟิวเจอรส์
ข้อมูลข้างต้นชี้ให้เห็นว่าในความเป็นจริงแล้วเจ้ามือได้มีการเปิด Short Position ก่อนราคา BTC จะพุ่งสูงขึ้นในครั้งล่าสุด และอัตราค่าพรีเมี่ยมของสัญญาฟิวเจอร์สก็ยังคงอยู่ในระดับที่เป็นบวก ซึ่งหมายความว่านักเทรดฝั่งซื้อจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากการซื้อสัญญา
มันไม่สำคัญว่าการเพิ่มขึ้นของราคาเมื่อเร็ว ๆ นี้จะเกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อ Bitcoin จำนวน 4,709 Btc ของ Square หรือไม่ ? เพราะถ้าหากนักเทรดชั้นนำกำลังแห่เปิด Long position กันมากขึ้น มันก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกแล้วว่าแนวโน้มขาขึ้นนั้นยังคงดำเนินต่อไป และเราอาจได้เห็นราคา Bitcoin พุ่งกลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ $ 12,400 อีกครั้ง
ที่มา : cointelegraph