ธนาคารกสิกรไทยซึ่งถือเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสี่ของประเทศไทยได้จับมือกับบริษัทฟินเทคสัญชาติจีนมีนามว่า International Business Settlement หรือ IBS เพื่อร่วมมือกันพัฒนาระบบ blockchain ที่สามารถทำธุรกรรมเงินบาท-หยวนได้
โดยจากรายงานของ Nikkei ระบบที่ว่านี้จะรองรับการโอนเงินระหว่างบาท-หยวนทั้งในไทยและในจีนโดยที่ไม่ต้องผ่านการแปลงเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วสกุลเงินดอลลาร์มักจะใช้เพื่อเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเงินในตลาดโลกเเมื่อมีการส่งเงินผ่าน wire transfer (โอนเงินข้ามประเทศผ่านธนาคาร)
ซึ่งนายบัณฑูร ล่ำซำได้กล่าวไว้ว่า
“ทางบริษัท IBS มีเทคโนโลยีและระบบเนทเวิร์คในการที่จะทำให้การโอนเงินข้ามประเทศนั้นง่ายขึ้นและไม่ต้องแปลงผ่านเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ในช่วงเวลาที่เงินหยวนกำลังอยู่ในขาขึ้นแบบตอนนี้”
โดยเทคโนโลยีที่ว่าจะถูกออกแบบโดย IBS และสมุดบันทึกการโอนเงินจะถูกเก็บแยกไว้จากสมุดบันทึกของจากทั่วโลก SWIFT ซึ่งถ้าหากเปิดให้ใช้บริการแล้ว ระบบของ IBS จะเป็นที่เชื่อว่าเร็วกว่า ถูกกว่า และลอดภัยกว่า เมื่อเทียบกับระบบ SWIFT ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
โดยระบบใหม่ที่ผูกกับเทคโนโลยี blockchain ที่ว่านี้เริ่มมาเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยทางด้านการค้าขายกำลังไปได้ดี ซึ่งในขณะนี้ประเทศจีนเป็นพันธมิตรทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย แซงหน้าญี่ปุ่นและสหรัฐฯ จีนนั้นยังถือเป็นประเทศที่ไทยเราส่งออกมากที่สุดเป็นเบอร์สองอีกด้วย โดยมีโวลลุ่มการซื้อขายต่อปีราวๆ 2.3 พันล้านบาท และ 20% ของนักท่องเที่ยวในไทยทั้งหมดคิดเป็นชาวจีน โดยอาจกล่าวได้ว่าบริการของธนาคารกสิกรที่กำลังจะมีขึ้นนั้นจะช่วยสร้างผลกำไรให้ทางธนาคารอย่างมหาศาล
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น