<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Macransom ไวรัสเรียกค่าไถ่ Bitcoin โจมตีผู้ใ้ช้ Apple

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

คุณสามารถซื้อ Macransom ได้ที่ Darknet ตลาดมืดของไวรัสและ Hacker ทำให้ผู้คนเริ่มกังวลว่าไวรัสนี่จะแพร่กระจายตัวอย่างรวดเร็ว

ไวรัสเรียกค่าไถ่ หรือ ransomware ที่เรียกขอ Bitcoin จากผู้ติดไวรัส ได้รับความโด่งดังในเดือนที่ผ่านมาหลังจากมีไวรัสชื่อ Wannary ที่โจมตีธุรกิจมากมายครอบคลุมกว่า 100 ประเทศ โดยมีศูนย์บริการสาธารณสุขของอังกฤษที่โดนโจมตีหนักที่สุด

สัปดาห์ก่อน มีนักวิจัยจาก Fortinet ได้เปิดเผยว่ามีไวรัสตัวใหม่เรียกว่า Macransom ที่จะโจมตีเฉพาะผู้ที่ใช้งานระบบของ Apple เท่านั้น ถ้าคอมพิวเตอร์ติดไวรัสนี้ ข้อมูลในเครื่องนั้นจะถูกเข้ารหัส เพื่อปลดปล็อค ผู้โดนไวรัสโจมตีจะต้องส่ง Bitcoin จำนวน 0.25 BTC ให้กับเจ้าของไวรัสตัวนี้ ที่แย่กว่านั้นคือไวรัสตัวนี้ถูกขายเหมือนโปรแกรมทั่วไปทำให้ความเสี่ยงที่มันจะแพร่กระจายยิ่งสูงขึ้น

คนทั่วไปสามารถซื้อ Macransom ได้พร้อมทั้งไวรัสตัวอื่นๆ เช่น Macspy ที่จะสามารถแฝงตัวอยู่ในเครื่องเรา และดักจับข้อมูลสำคัญต่สงๆ เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ cryptocurrency ทุกคนจะต้องระวังไว้อย่างดี เจ้า Macspy ยังโฆษณาอีกว่า ตัวไวรัสนี้ไม่สามารถย้อนตามไปถึงผู้ปล่อยมันออกมาได้อีกด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากซอฟต์แวร์ที่ชื่อ The Onion Router ที่ทำให้การสื่อสารในอินเตอร์เน็ตถูกตรวจสอบไมได้ว่ามาจากใคร

ไวรัสเหล่านี้ทำให้เห็นว่าผู้ใช้งาน Mac ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น

ไวรัสเหล่านี้ทำให้เห็นว่าผู้ใช้งาน Mac ต้องระมัดระวังให้มากขึ้นในโลกออนไลน์ หลายคนเอาจจะเข้าใจว่า อุปกรณ์หรือระบบของ Apple น้ันไม่มีไวรัสและมีความปลอดภัยสูง แต่ความจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจาก Fortinet นามว่า Rommen Joven และ Wayne Chin Yick Low ทำลายความเชื่อผิดนี้ๆที่หลายคนเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ของ Apple ปลอดภัยกว่าของ Windows พวกเขาได้กล่าวในการสัมภาษณ์ให้กับ Daily Mail UK ว่า “หลายคนเชื่อว่า Mac OS ทำให้คอมพิมเตอร์ปลอดภัยมากกว่า Windows อีกทั้งไวรัสพวกนี้ยังเจาะระบบของ Apple ไม่ได้อีกด้วย ซึ่งมันก็จริงที่ผู้ใช้ Windows มีโอกาสติดไวรัสมากกว่า แต่มันไม่ถูกต้องซะทีเดียวถ้าจะบอกว่าระบบของ Mac นั้นปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์”

Bitcoin ได้ทำให้เกิดกระแส และการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ในหลายๆส่วนของโลกใบนี้ โชคไม่ดีนัก ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์นี้ไปด้วย คือ ไวรัส มัลแวร์ และ ransomware ที่สามารถจัดการกับเงินเรียกค่าไถ่จากผู้ติดไวรัสได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ ransomware จะมีมานานก่อน Bitcoin แต่การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิตอลนี้ทำให้การติดตามและหยุดยั้งอาชญากรรมเหล่านี้ทำได้ยากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การวิวัฒนาการของไวรัส Zeus ที่แต่เดิมใช้การโอนตังแบบผิดกฎหมายข้ามชาติกลับมายังยุโรปตะวันออกเพื่อปกปิดต้นตอของเงิน แต่พอมีเงินดิจิตอลเข้ามา โจรเหล่านี้ก็แทบไม่ต้องกังวลอะไร แถมยังทำให้ชีวิตพวกเขาง่ายขึ้นด้วย

ถึงแม้ผลลัพธ์จาก ransomware ตัวนี้จะน่ากลัวมาก แต่ผู้ใช้ Apple ทุกท่านสามารถรับมือกับมันได้ โดยปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์อย่างเคร่งครัด เช่น ไม่คลิกลิงก์บนเว็บที่น่าสงสัย ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์เสี่ยงอันตราย และอัพเดทระบบของคุณให้ล่าสุดอยู่เสมอเพื่อกลบทุกช่องโหว่ในระบบ

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น