เงินดิจิตอลมีการเติบโตอย่างมากในปีที่ผ่านมา Altcoin แต่ละเหรียญมากับเทคโนโลยีและการให้บริการที่ต่างกันไป อย่างเช่น Sia เหรียญที่มีเป้าหมายจะปฎิวัติวงการผู้ให้บริการเก็บข้อมูลบนระบบ cloud
ผู้ก่อตั้งกล่าวว่า Sia นั้นมุ่งเป้าจะเป้าให้บริการที่ “มีความเป็นส่วนตัวแบบ 100% และราคาไม่แพง” ในการเก็บไฟล์บนอินเทอร์เนต โดยใช้พลังของเทคโนโลยี บล๊อคเชน ในการแบ่งพื่นที่ให้กับเซฟเวอร์ ไม่เหมือนเงินดิจิตอลสกุลอื่นๆ Sia ใช้การแชร์ข้อมูลเป็นสื่อกลางในการสร้างเหรียญ โดยวิธีการใช้นั้นง่ายมากเพียงแค่ติดตั้งแอปพลิเคชั่น Sia ลงบนคอมพิวเตอร์แล้วเลือกว่าต้องการแชร์ข้อมูลให้กับเนตเวิร์คเท่าไหร่ ซึ่งเราจะได้ค่าใช้จ่ายจากพื้นที่ที่ได้ไป Sia จะลดโอกาสที่เซฟเวอจะล่มโดยการกระจายข้อมูลของคุณไปตาม “โหนด” ต่างๆ ซึ่งจะเก็บไหล์ของคุณโดยการเข้ารหัส นั่นหมายความว่าถ้าโหนดนึง offline คุณก็ยังเข้าถึงไฟล์ของคุณได้
สิ่งที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับ Sia คือราคาคุณจ่ายแค่ 2 ดอลลาห์แต่คุณจะได้พื้นที่ถึง 1 TB ซึ่งคุณสามารถที่จะซื้อและพร้อมใช้ทันที
Sia ยังมีเงินดิจิตอลเป็นของตัวเองที่ชื่อว่า Siacoin ซึ่งปรับตัวผ่านราคา 0.01 ดอลล่าไปแล้ว ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่ายกย่องถ้าเทียบกับเงินดิจิตอลก่อนๆอย่าง Dogecoin ซึ่งมีราคาประมาณ 1 เซนต่อเหรียญ
Cloud Sia นั้นยังร่วมมือกับ Poloniex ในการทำระบบซื้อขายแลกเปลี่ยนและกระเป๋าเหรียญ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุให้ระบบบล็อกเชนของ Sia มี traffic สูงมากเมื่อไม่นานมานี้จนเกิดปัญหาการแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นอย่างที่บริษัทไม่เคยเห็นมาก่อน และทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการทำธุรกรรม บริษัทยังดำเนินการอย่างรวดเร็วโดยดึงนักลงทุนที่กำลังมองหา storage ที่มีประสิทธิภาพอย่าง Zach Herbert มาเป็นรองประธานฝ่ายปฎิบัติการของ Siacoin ซึ่งการรวมทีมนี้ได้แก้ปัญหา “14 จุดที่โค้ดของ Sia ภายในสองอาทิตย์” ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีให้แก่นักลงทุนที่มีต่อบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ
ทีมมาร์เกตติ้งของ Sia มีความเห็นต่อโปรเจค Amazon Drive unlimited ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่ง และนี้คือบทความที่ทีมกล่าวถึงมัน
“Amazon Drive เป็นผลิตภัณฑ์แบบ centrailized ที่มีบริษัทแบบ Cetralized เป็นเจ้าของ ซึ่งการตัดสินใจต่างๆจะตกเป็นของบริษัทแต่เพียงผู้เดียวและมันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และมักจะจบลงที่การส่งผลเสียต่อผู้ใช้งานและทำให้พวกเค้ารู้สึกได้ถึงความไม่ยุติธรรม เมื่อคุณใช้การบริการที่เป็น Centrailized อย่าง Amazon คุณต้องคอยภาวนาว่าพรุ่งนี้ระบบมันจะยังปกติดี แต่ Amazon ก็มีต้นทุนที่ต้องจ่าย พวกเค้าสามารถตัดสินใจไม่ให้บริการเมื่อไหร่ก็ได้ และและดูเหมือนมันก็จะเกิดขึ้นมาแล้วจริงๆ
ข้อความดังกล่าวเป็นการบอกว่าระบบที่เป็น Centralized มีความเสี่ยงอย่างไรซึ่งปัญหานี้จะไม่เกิดกับการเก็บข้อมูลของ Sia เมื่อผู้ซื้อนั้นขึ้นตรงกับผู้ขายและการทำธุรกรรมยังเป็นความลับ โอกาสที่จะเกิดการโกงได้น้อยลง มากไปกว่านั้นไฟล์ทั้งหมดได้รับการเข้ารหัสซึ่งผู้ให้เช่าพื้นที่จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นส่วนตัวได้เลย
Sia ยังมีระบบลงโทษแก่คนให้เช่าที่ข้อมูลที่ offline บ่อยๆ โดยผู้ปล่อยเช่าจะต้องมีเหรียญ Sia ทั้งหมด 2,000 Sia ก่อนที่จะปล่อยเช่าได้ ซึ่งเงินจำนวนนี้จะถูกหักในกรณีที่การเชื่อมต่อขาดไป เพื่อการเชื่อมกับ Node ตลอดเวลาผู้ใช้จะต้องเลือกว่าจะใช้ Node กี่ตัวซึ่งมีขั้นต่ำอยู่ที่ 4 ตัวจนไปถึงไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับความสำคัญของข้อมูลซึ่งราคาก็จะมากขึ้นตามจำนวน Node แต่มันก็ยังถูกมากอยู่ดีในตอนนี้
สรุป
Sia นั้นแสดงให้เห็นประสิทธิในการเปลี่ยนเเปลงตลาดโดยใช้จุดเด่นในด้านราคาและพื้นที่เก็บข้อมูลที่ล้นเหลือ โดยไม่กี่เดือนก่อนมันยังไม่เป็นที่รู้จักเลยแต่ตอนนี้จำนวนผู้ใช้กลับเพิ่มมากขึ้นและทำให้ราคาของ Siacoin เพิ่มขึ้นเช่นกันโดยมีความต้องการเพิ่มโหนดและ data center มากขึ้นแต่มันก็ยังเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในช่วงที่ต้องรอการยอมรับและต้องใช้เวลากว่ามันจะกลายเป็นรายใหญ่ในตลาด Cloud แต่แน่นอนว่ามันเป็นที่น่าสนใจแก่ผู้คนมากมาย และโดยส่วนตัวก็ขอแนะนำให้ลองใช้บริการ Cloud storage ของมันดู
ความเห็นจากผู้เขียน
จริงๆนี่เป็นเทคโนโลยีไฟลท์บังคับของ Blockchain ที่ไม่ว่ายังไงก็จะมาแทนที่ Centralized Cloud storage แบบเดิมๆแน่นอนเพียงแต่จะช้าเร็วแค่ไหน เหมือนเมื่อก่อนที่เราอาจจะต้องไปซื้อของที่ร้านค้าใหญ่ๆที่เดียวแต่เดียวนี้ร้านค้าปลีกย่อยมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Sia จะดำเนินการธุรกิจและการตลาดได้ดีแค่ไหนเพราะจริงๆแล้วCloud storage อย่าง Digital Ocean หรือ amazon ก็ยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่มากรวมถึงยังมีคู่แข่งที่มีคอนเซปต์แบบเดียวกันอย่าง StorJ ที่ใช้ Blockchain เช่นเดียวกัน