Mastercard อาจจะนำเอาเทคโนโลยี Blockchain มาติดตั้งในระบบช่วยจ่ายเงิน
สำนักงานทะเบียนสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งประเทศสหรัฐฯ หรือ U.S. Patent and Trademark Office (USPTO) ได้เผยแพร่แบบฟอร์มหนึ่ง ที่เผยให้เห็นถึงชื่อของบริษัทด้านการจ่ายเงินยักษ์ใหญ่ Mastercard ที่มีการอธิบายถึง “ระบบการชำระเงิน” แบบใหม่ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือการทำธุรกรรมแบบ บริษัทสู่บริษัท หรือ B2B โดยในฟอร์มดังกล่าวยังได้มีการพูดถึงปัญหาหน่วยความจำที่ใช้เก็บข้อมูล และรวมถึงจำนวนโวลลุ่มในการทำธุรกรรมโดยรวมที่มากขึ้นอีกด้วย
ที่น่าสนใจคือ ในแบบฟอร์มของทาง Mastercard ยังได้กล่าวว่าจะมีการนำเอาระบบ Blockchain เข้ามาช่วยใช้ประมวลผลธุรกรรมด้วย
โดยใจความมีดังนี้
“ในบางกรณี สมุดบัญชีอาจจะถูกปรับใช้ให้เป็น Blockchain ในการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้อง…ในระบบที่ว่านี้ จำนวนข้อมูลอาจจะนำเอาตัวเลขของการทำธุรกรรมซื้อสินค้า, ใบกำกับสินค้า, ข้อมูลการทำธุรกรรม และข้อมูลอื่นๆที่จะถูกเก็บไว้ในสมุดบัญชีที่กล่าวไว้ข้างต้น”
Mastercard ได้ชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยี Blockchainนั้นจะสามารถช่วยแก้ปัญหาข้างต้นที่กล่าวมาได้อย่างอัตโนมัติ และจะช่วยบันทึกเก็บข้อมูลลงสู่บัญชีที่ไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้ของ BLockchain ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ที่ไม่ประสงค์ดีนั้นจะไม่สามารถโกง หรือมาแก้ไขธุรกรรมในภายหลังได้
แบบฟอร์มดังกล่าวยังได้แสดงให้เห็นถึงสิทธิบัตรล่าสุดที่ทาง Mastercard วางแผนจะนำเอาเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ โดยก่อนหน้านี้คู่แข่งรายใหญ่อย่าง Visa ก็เคยออกมาประกาศจ้างวิศวกรด้าน Blockchain เพื่อช่วยพัฒนาระบบช่องทางการจ่ายเงินแบบใหม่ของพวกเขาอีกด้วย
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
ภาพจาก home.bt.com
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น