บริษัท BCPG หรือบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยในด้านพลังงานหมุนเวียน BCPG และ Power Ledger ได้ออกมาประกาศในวันนี้ถึงข้อตกลงในการนำเข้าตลาดซื้อขายพลังงานหมุนเวียนแบบ distributed มาในประเทศไทย
“จะเริ่มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน เราจะร่วมงานกันเพื่อรูปแบบการพัฒนา microgrid ในกรุงเทพฯ โดยจะได้เห็นอพาร์ทเม้นประมาณ 6-10 ชั้นที่สามารถซื้อขายพลังงานขนาด 1-2MW ที่สร้างมาจากแผ่นพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดไว้อยู่”
อ้างอิงจากประกาศ
โดยในการใช้ระบบซื้อขายพลังงานของ Power Ledger นั้น ผู้จัดการอาคารและตึกต่างๆจะสามารถซื้อขายพลังงานจากแผ่นพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะติดตั้งลงไปในตึกต่างๆ และจะมีการ settle ด้านการระบบการเงินแบบอัตโนมัติมาช่วยอีกด้วย
นายบัณฑิต สะเพียรชัย หรือประธานของ BCPG กล่าวว่าในอุตสาหกรรมดังกล่าวจะเคลื่อนี่จากยุคด้าน centralized ไปสู่โมเดลการกระจายพลังงานที่เทคโนโลยี blockchain จะถือเป็นส่วนสำคัญในการแจกจ่ายพลังงาน
“นวัตกรรมนั้นถือเป็นหัวใจหลักของ BCPG และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำงานกับ Power Ledger” กล่าวโดยนายบัณฑิต
“สิ่งนี้จะช่วยลดเงินทุนจากรัฐบาลในการสร้างโรงงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ให้ตรงตามอุปสงค์ความต้องการพลังงานไฟฟ้า และในขณะเดียวกันก็ยังสามารถหยิบยื่นตัวเลือกด้านพลังงานไฟฟ้าที่ดีกว่าให้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นในรูปแบบของพลังงานหมุนเวียนที่จะสามารถทำการซื้อขายกันระหว่างบุคคลได้” กล่าวโดยนายบัณฑิต
“โครงการของเราครอบคลุมกลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการจากบ้านเรือนทั่วไป ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน, โรงพยาบาล, วงการอสังหาริมทรัพย์ นี่ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งนะ”
เขากล่าว
นาย David Martin หรือ MD ของ Power Ledger ได้กล่าวถึงยุคสมัยของการซื้อขายพลังงานระหว่างบุคคลที่จะสามารถทำให้ครัวเรือนแต่ละครัวเรือนมีโอกาสได้ลงทุนในพลังงานหมุนเวียนได้มากที่สุด ในขณะที่อัตราคาร์บอนนั้นก็ยังต่ำอีกด้วย
“การพัฒนาระบบพลังงานหมุนเวียนแบบ microgrid สามารถหยิบยื่นความสะดวกในการติดตั้งและการทำงาน โดยทำให้การสร้างพลังงานนั้นมีความใกล้ชิดกับผู้ใช้งานทั่วไป ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ทำงานร่วมกับ BCPG เพื่อนำเอาเทคโนโลยีนี้มาติดตั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กล่าวโดยนาย Martin
“ธรรมชาติของระบบซื้อขายแบบอัตโนมัตินั้นหมายความว่ามันจะเป็นเรื่องง่าย และมีต้นทุนที่ต่ำ และมันจะสามารถนำพามาซึ่งการสร้างระบบพลังงานที่มีต้นทุนต่ำ, คาร์บอนต่ำ และสามารถทนทานต่อผลกระทบของสภาพอากาศที่ย่ำแย่ได้”
โดยสรุปง่ายๆคือ บริษัท Power Ledger จะใช้ระบบ blockchain ระดับโลกเพื่อสร้างระบบ ledger หรือตัวบัญชีเก็บข้อมูลเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อขายพลังงานไฟฟ้าด้วยกันเองได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น