<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Binance : จากเหรียญระดมทุน (ICO) สู่เว็บเทรด Cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดใน 6 เดือน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ถ้าเป็นเมื่อ 1 ปีก่อน อาจยังไม่เคยมีใครได้ยินเกี่ยวกับ Binance แต่หลังจากนั้น 6 เดือน เว็บเทรดอันดับที่ 376 ของโลกก็ได้เปิดตัวขึ้น

จาก ICO สู่เว็บเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดใน 6 เดือน

Binance นั้นเริ่มมาจากการเป็นเหรียญระดมทุน ( Initial Coin Offering : ICO) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2017 และสามารถรวบรวมเงินได้ถึง 15 ล้านดอลลาร์ โดยผู้ใช้งานในช่วงเริ่มแรกนั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน

แต่หลังจากนั้น Binance ก็ได้รับผลกระทบจากการแบนเว็บเทรดในประเทศจีนเมื่อเดือนกันยายนปีเดียวกัน ซึ่งทางการจีนมีคำสั่งปิดเว็บเทรด Bitcoin ภายในประเทศ และยังสั่งให้ Binance หยุดให้บริการแก่ผู้ใช้งานจำนวนมาก

ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคและมีการแข่งขันสูงระหว่างเว็บเทรดอื่น ๆ ที่เปิดมาก่อน แต่ Binance ก็ยังสามารถรับมือได้เป็นอย่างดีจนกระทั่งกลายเป็นเว็บเทรดที่แม้จะไม่มีคู่เงินกับเงินตรา (Fiat trading pairs) แต่เว็บเทรดดังกล่าวก็มี volume มากที่สุดในโลกแซงหน้าเว็บอื่น ๆ ที่มีคู่เงินกับเงินตราได้

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Binance มี volume อยู่ที่ 4.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง CEO ของเว็บ นามว่านาย Zhao Changpeng ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า มีผู้สมัครเข้าใช้งานเว็บไซต์ใหม่เป็นจำนวน “หลายล้านราย” ต่อสัปดาห์ ทำให้บริษัทต้องปิดการรับสมัครสมาชิกใหม่และต้องรีบจัดการกับความต้องการของผู้ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น

กระทั่งเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา Binance เปิดรับสมัครสมาชิกใหม่เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ซึ่งแม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ แต่ก็มีผู้สมัครสมาชิกใหม่มากกว่า 240,000 รายเลยทีเดียว

นาย Zhao ยังกล่าวอีกว่า “พูดตรง ๆ ว่าเราไม่เคยคาดหวังว่าเราจะเติบโตมาได้ถึงขั้นนี้” โดยผู้ใช้งานเว็บส่วนใหญ่เป็นผู้ชายอายุ 25-30 ปีที่มีฐานะร่ำรวย นอกจากนี้ นักลงทุนจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ก็ให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

ผู้แนะนำ, รางวัล และการ hard fork ทำให้ความต้องการสูงขึ้น

มีหลายปัจจัยที่ช่วยให้ Binance เติบโตอย่างก้าวกระโดด

สิ่งแรกคือ นโยบายบริษัทที่มีการให้ค่าคอมมิชชั่น 20% แก่ผู้ที่แนะนำเว็บไซต์ให้ผู้ใช้ใหม่ (Referral program) และผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถสร้างรายได้จากนโยบายนี้ได้มากกว่า 76 Bitcoins เลยทีเดียว

นอกจากนี้ บริษัทยังใช้เงินทุน ICO ของตนในการออกโปรโมชั่นดี ๆ มากมาย เช่น ล่าสุดมีการแจกรถ Lamborghini Huracan RWD Coupe ปี 2018 ให้แก่ 1 ผู้โชคดีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การที่เว็บมีเหรียญที่เกิดจาก Bitcoin forks ให้เลือกเทรด แม้แต่เหรียญที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก เช่น Bitcoin Gold และ Bitcoin Diamond น่าจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผู้ใช้งานมากที่สุด ในขณะที่เว็บเทรดอื่น ๆ สนับสนุนเพียงแค่ Bitcoin Cash เท่านั้น

แม้เว็บ Binance จะเติบโตอย่างรวดเร็ว นาย Zhao ก็ยังไม่พอใจกับความสำเร็จนี้ โดยเป้าหมายถัดไปของบริษัทคือ การขอใบอนุญาตจากสถาบันกำกับการเงิน (Financial Services Agency) ของประเทศญี่ปุ่นและย้ายบริษัทไปตั้งที่กรุงโตเกียวซึ่งนับเป็นศูนย์กลางของหนึ่งในตลาดคริปโตที่ใหญ่ที่สุด

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น