<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Coincheck เริ่มชดใช้เงินของลูกค้าที่ถูกแฮคและกลับมาเปิดให้บริการเทรดแล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เว็บผู้ให้บริการซื้อขาย cryptocurrency นาม Coincheck เริ่มที่จะชดใช้เงินของลูกค้าที่ก่อนหน้านี้ถูกแฮคไปเป็นจำนวนกว่า 530 ล้านดอลลาร์ในเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา

โดยอ้างอิงจากบล็อกของพวกเขาในวันนี้ ทาง Coincheck กล่าวว่าพวกเขาจะคืนเงินให้กับลูกค้าด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ประมาณ 88.549 เยน (หรือ 0.83 ดอลลาร์) ต่อเหรียญ NEM ที่เคยถูกขโมยไป จำนวนอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวสอดคล้องกับแผนการการคืนเงินในช่วงแรกที่เคยสัญญาไว้เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา

ตามที่ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไว้ก่อนหน้านี้ ทาง Coincheck ออกมาคอนเฟิร์มถึงการแฮคเมื่อวันที่ 26 มกราคม โดยเผยว่าพวกเขาถูกแฮคเป็นจำนวนเงินประมาณ 523 ล้านดอลลาร์ในรูปแบบเหรียญ NEM ภายหลังจากนั้นทางทีมของ Coincheck ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงแผนการในการคืนเงิน โดยจำนวนเงินที่ลูกค้าที่เสียหายจะได้คืนทั้งหมดนั้นอยู่ที่ราว ๆ 420 ล้านดอลลาร์

จนมาถึงการอัพเดตในวันนี้ที่ค่อนข้างสอดคล้องกับการแถลงข่าวของเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา โดยทาง CEO และ COO ของ Coincheck ประกาศว่าพวกเขาจะเริ่มคืนเงินในสัปดาห์นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับของผู้ออกกฎหมายด้านการเงินอย่าง Financial Services Agency (FSA)

นอกจากนี้ ทาง Coincheck ยังประกาศว่าพวกเขาจะเริ่มกลับมาเปิดให้บริการถอนเงินได้แล้ว และรวมถึงการเทรดเหรียญคริปโตอย่าง ETH, ETC, LTC, BCH และ BTC ด้วย ในขณะที่บริการและ asset อื่น ๆ นั้นอาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มเติม

ในขณะที่ทาง Coincheck กำลังพยายามที่จะสะสางความเสียหายที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของพวกเขา รายงานอีกแหล่งหนึ่งเผยว่าทาง Coincheck อาจจะเกิดปัญหากับระบบภายในก่อนที่จะถูกแฮคออกไป

โดยอ้างอิงจากรายงานของ Nikkei Asia Review นั้น สาเหตุของช่องโหว่ของระบบนั้นเกิดจากตัว malware ที่แฝงตัวอยู่ในคอมพิวเตอร์ภายในของบริษัท

นอกจากนี้รายงานล่าสุดของทางตำรวจที่ทำการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวเผยว่านักแฮคอาจจะส่งอีเมลล์เพื่อ phising ไปหาพนักงานของ Coincheck ในช่วงต้นเดือนมกราคม และภายหลังลิงค์ดังกล่าวก็ยิงไวรัสเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของพนักงาน coincheck

ภายหลังจากนั้นนักแฮคสามารถที่จะขโมย private key ของกระเป๋าเหรียญ NEM เป็นจำนวนมหาศาลได้ก่อนที่จะทำการแฮคเพื่อขโมยเงินหลังจากนั้น และในช่วงนั้นทาง Coincheck ยังไม่มีเครื่องมือที่จะสามารถตรวจสอบการแฮคดังกล่าว

ความล้มเหลวในด้านระบบรักษาความปลอดภัยของ Coincheck ส่งผลทำให้ทาง FSA บังคับให้เว็บเทรดทุก ๆ เว็บต้องส่งรายงานด้านการรักษาความปลอดภัยของระบบให้กับหน่วนงานรัฐบาลภายในวันที่ 22 มีนาคมนี้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น