บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวที่ถูกเขียนขึ้นโดยนักเขียนกิตติมศักดิ์คุณ “ต้น” สกลกรย์ สระกวี อดีต CEO ของบริษัทด้านเกม Gareana และผู้ก่อตั้งกลุ่มชุมชนด้านคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในไทย Bitcoin Thai Club โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
พึ่งจะมีเวลาว่าง เลยอยากจะขอพูดเรื่องภาษีกันซักหน่อย
สรุปง่ายๆ จาก พ.ร.ก กำกับดูแลทรัพย์สินดิจิตอล คือ
- บุคคลธรรมดาต้องเสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย จากกำไร (Capital Gain) 15% ไม่โดน VAT รายได้ทั้งหมดของปี ต้องไปรวมคิดภาษีตอนปลายปี
- นิติบุคคล ต้องเสีย VAT7% แต่เคลมคืนได้แบบภาษีซื้อขาย พวกค่าใช้จ่ายต่างๆ
เมื่อฟังแล้ว หลายๆ คนอาจจะเริ่มกังวล และ เริ่มบ่นกันว่า มันแพงเก็บตั้ง 15% แต่อย่างที่เรารู้กันครับ ทุกคนมีหน้าที่จ่ายภาษี เมื่อก่อนอาจจะโดนแค่บางคนเพราะว่าสรรพากร มีบุคลากรไม่เพียงพอในการตรวจสอบทุกคน แต่พอมี พ.ร.ก นี้ขึ้นมาก็ทำให้สามารถเก็บภาษีได้ทันทีจากตัว Exchange (มาเร้วเร็วเรื่องพวกนี้)
เมื่อเรามีรายได้เราก็ต้องเสียภาษี โดยผมเองก็เคยผลักดันเรื่องภาษี Capital Gain ไปกับ สรรพากร เพราะถ้าหากสรรพากรไม่ได้มีการส่งเรื่อง พ.ร.ก ตัวนี้ เงินรายได้ที่เข้ามาทั้งหมดของคุณไม่ว่าคุณจะกำไรหรือขาดทุน คุณจะเสียภาษีเงินได้ทั้งหมดทันที !!!
ปัญหาที่ผมจะมาวิเคราะห์วันนี้คือ แล้ว สรรพากรจะรู้ว่าเรามีกำไรได้ยังไง ? เพราะมันมีตั้งหลายเหรียญแล้ว สรรพากรจะเอาอะไรมาวัด
จากประสบการณ์ที่ผมคุยกับสรรพากรกลาง เค้าเน้นดูที่แต่เงิน FIAT หรือเงินบาทเท่านั้นครับ ดังนั้น ให้วิเคราะห์ง่ายๆ เลยก็คือ
คุณฝากเงินไปเท่าไหร่ – คุณถอนเงิน = กำไร
ให้ EXCHANGE หัก 15% ไว้ส่งให้กับสรรพากร แต่ถ้า
คุณถอนเงินน้อยกว่า เงินฝาก = ขาดทุน ไม่ต้องหัก
เช่นเดียวกันหากคุณมีแต่ถอน ไม่มีฝาก ถือเสียว่าก้อนนั้นคือ กำไรทั้งก้อน!!! ต้องโดนหักเต็ม 15% (ใครที่คิดต่างจากนี้รบกวน comment ด้วยนะคับ)
ซึ่งหากคุณซื้อบิทคอยน์นอกตลาด แล้วไปถอนที่ Exchange คุณอาจจะต้องไปยื่นเรื่อง ยื่นหลักฐานขอคืนสิ้นปีหรือเปล่ายังไงผมไม่ทราบได้ว่าสรรพากรจะยอมหรือไม่
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว สังคม Crypto ของไทยเราจะเกิดอะไรขึ้น ?? แล้วปัญหาที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ?
- คนจะหาทาง Cash-out นอกตลาดมากขึ้น และเป็นช่องทางของเหล่ามิจฉาชีพที่จะเข้ามาทำให้เกิดปัญหาเช่น
- ฟอกเงิน เหล่ามิจฉาชีพที่อยากจะฟอกเงินก็ยิ้มสิครับ ไม่ต้องไปสมัคร exchange ให้ ปปง สงสัย (exchange จะต้องรายงานให้ปปง. สำหรับธุรกรรมที่น่าสงสัย เช่นฝาก หรือถอนเยอะๆ) เมื่อมีคนออกมาขายนอกตลาดมากขึ้น ก็จะทำให้ตามปัญหานี้ยากขึ้น และอาจจะทำให้ผู้ซื้อขาย ที่ทำธุรกรรมกับคนที่ฟอกเงิน มีปัญหาตามมาอีก
- หลอกโอนเงินซื้อสินค้า เช่น หลอกขายสินค้าบนอินเตอร์เน็ต แล้วให้คนที่โดนหลอกขายโอนเงินให้กับผู้ที่ขาย bitcoin แล้วก็ ไม่ให้สินค้า ชิ่งหนีไปพร้อม Bitcoin ส่วนผู้ขาย Bitcoin ก็ซวย Bitcoin ก็ขายไปแล้ว แต่โดนแจ้งตำรวจจับอีก เพราะมีชื่อเราเป็นผู้รับโอนเงิน
- ผลักดันให้คนไทยใจ Crypto เป็นสังคมไร้เงินสดไวขึ้น ??? เพราะใช้บัตรพวก tenx , ePayment น่าจะดีกว่าเสีย 15% และ ไม่ต้อง Declare tax สิ้นปี
- คนไทยหลายๆ คนที่ได้เงินจาก Crypto หลายล้าน อาจจะไปเปิดบัญชีที่ต่างประเทศ หลังจากนั้น 1 ปี พอข้ามปีภาษีแล้วค่อยเอาเงินเข้ามา แบบนี้ไม่ต้องเสียภาษี
- คนที่ได้กำไรเยอะๆ จากปีที่แล้ว และยังไม่ได้ Cash out เลย อาจจะโดนภาษีเต็มๆ เพราะ มีแต่ยอดถอนอย่างเดียว
- สายขุด อาจจะมีปัญหาเพราะไม่สามารถแสดงรายจ่าย และหักลดต้นทุนได้ แต่โดน หัก 15% ทันที ต้องไปยื่นแสดงต้นทุนเพื่อขอคืนตอนปลายปี
สุดท้ายแล้ว คงเป็นคำถามไปถึงภาครัฐว่าอยากจะควบคุมเงิน Digital มากน้อยแค่ไหน สิ่งที่รัฐกำลังจะทำเป็นสิ่งที่ดี และง่ายต่อการจัดเก็บเงินรายได้ แต่อาจจะเป็นการผลักให้คนออกนอกระบบ จนเกิดปัญหาในอนาคตหรือไม่?
ภาพจาก Shutterstock
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น