หลังจากที่ราคาเหรียญ Bitcoin และราคาของเหรียญคริปโตต่าง ๆ ปรับตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นักเทรดคริปโตส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบโดยตรงกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ยังมีนักขุดที่ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ซึ่งทางเรามีความตั้งใจที่เก็บข้อมูลในเชิงสถิติกับสถานการณ์ของนักขุดในไทยในปัจจุบันว่าตอนนี้ พวกเขามีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง
ข้อมูลเหล่านี้ ถูกเก็บจากกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คนจากโพลของเว็บ Siam Blockchain ตัวอย่างทั้งหมดเป็นซึ่งข้อมูลที่ได้มานั้นมาถูกเก็บจากผู้ใช้งานเว็บ SiamBlockchain.com และเป็นคนไทยที่มีความสนใจใน Cryptocurrency ทางเราได้สรุปข้อมูลสถิติต่าง ๆ จากโพลเพื่อหวังหว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน ทุก ๆ ท่านไม่มากก็น้อยครับ
มีนักเทรดมากกว่านักขุด
เมื่อถามว่าคุณเป็นนักขุดหรือไม่ 44.2 เปอร์เซ็นต์ ของตัวอย่างเป็นนักขุด และ 55.8 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ขุดอยู่ น่าตกใจมากว่าคนที่อยู่ในวงการคริปโตในไทยนั้น เกือบครึ่งเลยทีเดียวที่ขุด Cryptocurrency อยู่ หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักคริปโตมาจากการขุด Bitcoin ว่ามันสามารถหา Passive Income ก็เป็นได้
ส่วนมากขุดเป็นงานอดิเรก
เมื่อถามว่าปัจจุบันคุณขุดเหรียญ Cryptocurrency เปนงานหลักหรือไม่ ในบรรดาของตัวอย่างที่เป็นนักขุด 73.8 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ขุดเป็นงานหลัก และ 26.2 เปอร์เซ็นต์ ขุดเป็นงานหลัก ถึงแม้ว่าจะมีตัวอย่างเป็นนักขุดเกือบครึ่งจากทั้งหมด แต่ดูเหมือนว่า นักขุดส่วนใหญ่นั้นจะไม่ได้ขุดเหรียญคริปโตเป็นงานหลัก พวกเขาอาจจะมองว่าเป็นช่องทางรายได้เสริมจากงานประจำ
นักขุดยังเชื่อมั่นใน Bitcoin
เมื่อถามว่าปัจจุบันเหรียญที่คุณกำลังขุดอยู่คือเหรียญอะไร นักขุด ขุดเหรียญ Bitcoin เป็นจำนวนมากที่สุดคิดเป็น 30.5 เปอร์เซ็นต์, Ethereum 21.8 เปอร์เซ็นต์, ZCash 10.9 เปอร์เซ็นต์, Litecoin 9.4 เปอร์เซ็นต์, อื่น ๆ 8.6 เปอร์เซ็นต์, Monero 6.3 เปอร์เซ็นต์, Bitcoin Cash 5.3 เปอร์เซ็นต์, ZCoin 4.8 เปอร์เซ็นต์ และ Ethereum Classic 2.4 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความคิดของคนส่วนใหญ่ที่ยังเชื่อมั่น และคิดว่า Bitcoin ยังเป็นเหรียญคริปโตที่น่าสะสมที่สุดอยู่ โดยมี Ethereum ตามมาติด ๆ
นักขุดส่วนมากขุดคริปโตด้วยการ์ดจอเป็นหลัก
เมื่อถามถึงลักษณะในการขุดของกลุ่มตัวอย่าง ตัวอย่างที่เป็นนักขุดเหรียญคริปโตส่วนใหญ่ขุดด้วยการ์ดจอคิดเป็น 42.3 เปอร์เซ็นต์, Cloud Ming 25.1 เปอร์เซ็นต์, CPU 15 เปอร์เซ็นต์, เครื่อง ASIC 10.9 เปอร์เซ็นต์, HDD 2.6 เปอร์เซ็นต์, Coinhive 2.4 เปอร์เซ็นต์ และอื่น ๆ 1.6 เปอร์เซ็นต์ ไม่น่าแปลกใจนักที่นักขุดส่วนใหญ่ใช้การ์ดจอในการขุดเนื่องจากมันสามารถขุดได้หลากหลาย Algorithm และมีสภาพคล่องในตัวมากกว่าแบบอื่น (ซื้อง่าย ขายง่าย สามารถนำไปทำอย่างอื่นได้) ทำให้มีความเสี่ยงที่น้อยกว่าการขุดแบบอื่นจึงเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักขุดในวงการ และที่น่าตกใจคือ นักขุดส่วนใหญ่เหมือนจะลงทุนใน Cloud Mining ที่มีความเสี่ยงสูงอยู่เป็นอันดับรองมา มากกว่าเครื่องขุด ASIC เสียอีก ยังไม่นับที่บางคนขุดคริปโตด้วย Coinhive ซึ่งเป็น Malware สคริปต์ในการแอบขุดเหรียญคริปโตบนคอมพิวเตอร์คนอื่น
นักขุดลงส่วนใหญ่ลงทุนมากกว่า 100,000 บาท
เมื่อถามว่าคุณใช้เงินลงทุนในการขุดไปเป็นจำนวนเท่าไร 26.4 เปอร์เซ็นต์ลงทุนไป 100,000 – 500,000 บาท, 17.9 เปอร์เซ็นต์ ลงทุนไป 10,000 – 50,000 บาท, 16.9 เปอร์เซ็นต์ลงทุนไป 50,000 – 100,000 บาท, 15.4 เปอร์เซ็นต์ลงทุนไปน้อยกว่า 5,000 บาท, 8.9 เปอร์เซ็นต์ลงทุนไป 500,000 – 1,000,0000 บาท, 8.9 เปอร์เซ็นต์ลงทุนไป 5,000 – 10,000 บาท และ 5.6 เปอร์เซ็นต์ลงทุนไปมากกว่า 1,000,000 บาท นักขุดชาวไทยส่วนใหญ่นับว่าลงทุนไปจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะคิดว่ามันเป็นแค่งานอดิเรกก็ตาม คนเหล่านั้นอาจจะมองว่าการขุดคริปโตเป็นการลงทุนซะมากกว่าที่แต่ใส่เงินทุนเข้าไปดูแลนิดหน่อย จากนั้นปล่อยให้มันงอกเงยซะมากกว่ามานั่งดูแลมันเป็นงานประจำ
นักขุดส่วนใหญ่มีรายได้จากการขุดคริปโตเดือนละประมาณ 5,000 บาท
เมื่อถามว่ารายได้ต่อเดือนจากการขุดเหรียญ Cryptocurrency ต่อเดือนประมาณเท่าไร 44.1 เปอร์เซ็นต์ได้น้อยกว่า 5,000 บาท, 24.1 เปอร์เซ็นต์ได้ 10,000 – 50,000 บาท, 19.7 เปอร์เซ็นต์ได้ 5,000 – 10,000 บาท, 4.5 เปอร์เซ็นต์ได้ 100,000 – 500,000 บาท, 4.5 เปอร์เซ็นต์ได้ 50,000 – 100,000 บาท, 1.5 เปอร์เซ็นต์ได้มากกว่า 1,000,000 บาท และ 1.5 เปอร์เซ็นต์ได้ 500,000 – 1,000,000 บาท ดูเหมือนว่านักขุดส่วนใหญ่จะมีรายได้จากการขุดคริปโตไม่มากนัก ส่วนนึงอาจจะเพราะนักขุดส่วนใหญ่ไม่ได้ขุดเป็นงานอดิเรกเลยไม่ได้จริงจังมากว่า มันต้องเป็นช่องทางรายได้หลัก แต่ในขณะเดียวกันเกือบครึ่งนึงของนักขุด ก็มีจำนวนไม่น้อยเลยที่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
นักขุดคริปโตในไทยกำลังเผชิญปัญหา
เมื่อถูกถามว่า ปัจจุบันคุณมีปัญหากับการขุดเหรียญ Cryptocurrency มากน้อยแค่ไหน รูปดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ส่วนใหญ่ (สีแดง) กำลังมีปัญหาอยู่กับการขุด และส่วนน้อยไม่มีปัญหาสำหรับการขุด (สีเขียว) สาเหตุที่ข้อมูลเป็นแบบนี้อาจจะเกิดจากการที่นักชุดส่วนใหญ่ยังไม่คืนทุนในเครื่องขุดของพวกเขา พอราคาเหรียญลดลง ก็ได้กำไรน้อยลง แต่ค่าไฟกลับเท่าเดิม เวลาคืนทุนเลยนานขึ้นทำให้เกิดปัญหาขึ้น และคาดว่าเหตุผลที่มีเพียงส่วนน้อยไม่มีปัญหานั้นอาจจะเกิดจากการที่พวกเขาคืนทุนเรียบร้อยแล้ว หรือว่ามีเงินสำรองสำหรับการจ่ายค่าไฟ และขุดเหรียญรอราคาเหรียญในตลาดปรับตัวเพิ่มอีกครั้ง จึงไม่เดือดร้อนมากนัก
ราคาเหรียญที่ลดลงคือปัญหาหลัก
เมื่อเจอคำถาม หากคุณมีปัญหาในการขุด Cryptocurrency ส่วนใหญ่เกิดจากอะไร ไม่น่าแปลกใจที่ 42.3 เปอร์เซ็นต์ จะตอบว่าเกิดจากราคาเหรียญที่ขุดลดลง เนื่องจากมันคือปัจจัยหลักในการขุด ด้วยราคาเหรียญที่ลดลง นักขุดที่ไม่มีเงินสำรองจำเป็นต้องขายเหรียญที่ขุดมาได้ ในราคาที่ต่ำลง ทำให้ระยะเวลาในการคืนทุนนานขึ้นไปอีก, ค่าไฟที่แพงขึ้น 26.9 เปอร์เซ็นต์ นี่อาจจเป็นสาเหตุต่อเนื่องมาจากราคาเหรียญที่ลดลง เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่นักขุดส่วนใหญ่จะคิดว่าค่าไฟของพวกเขาเป็นปัญหา เนื่องจากมันคือค่าใช้จ่ายหลักในการขุดนั่นเอง, อุปกรณ์หายาก 13.2 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้ว่าตามหลักเหตุและผล เมื่อราคาเหรียญลดลง ราคาการ์ดจอก็ต้องลดลงด้วยเช่นกัน แต่ว่า ในวงการคริปโตไทยนั้นราคาการ์ดจอกลับไม่ลดลงเท่าที่คิด ทำให้นักขุดมองว่าอุปกรณ์ในการขุดนั้นหายาก, ปัญหาทางเทคนิค 14.2 เปอร์เซ็นต์ อาจจะมาจากการที่นักขุดส่วนใหญ่ใช้การ์ดจอในการขุด และทุก ๆ คนย่อมตระหนักดีกว่าการขุดด้วยการ์ดจอนั้น ต้องการการดูแลเอาใจใส่ จากนักขุดมากกว่าวิธีปกติ และอื่น ๆ อีก 3.4 เปอร์เซ็นต์
นักขุดส่วนใหญ่ขาดทุนอย่างหนัก
และในคำถามสุดท้าย ปัจจุบัน ธุรกิจการขุดของคุณอยู่ในสถานะใด ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะขาดทุนอย่างหนัก ซึ่งคิดเป็น 68.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจริง ๆ แล้วพวกเขาอาจจะขาดทุนแค่ตอนนี้เนื่องจากยังไม่ขายเหรียญที่ตนเองเก็บไว้ เก็บไว้ขายตอนราคาขึ้นอีกรอบเพื่อคืนทุน พร้อมทำกำไรอีกจำนวนมากก็ได้ และ 31.5 เปอร์เซ็นต์ตอบว่า พวกเขามีกำไรบานเบอะ กลุ่มนี้น่าจะเป็นพวกที่คืนทุนไปแล้ว มีเงินสำรองเหลือจ่ายค่าไฟในทุก ๆ เดือนเก็บเหรียญไว้ขายเก็งกำไรตอนที่ตลาดกลับมาในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน คาดว่าทุก ๆ คนที่ขุดเหรียญคริปโตนั้น ไม่ได้เสียใจกับการตัดสินใจของเขา ถึงแม้ตอนที่พวกเขาลงทุนตอนแรก อาจจะคิดว่า 3 หรือ 6 เดือนก็คืนทุน แต่พอราคาเหรียญลง ก็กลายเป็น 12 หรือ 24 เดือนคืนทุนนั้น อาจจะดูนานสำหรับวงการคริปโตที่อะไรก็ดูฉาบฉวยไปหมด ถ้าใครได้ลองไปศึกษาการลงทุนในทางเลือกอื่น ๆ จะพบว่าการลงทุนไปแล้วแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย ให้เงินทำงาน แล้วได้ผลตอบแทนกลับมา 100 เปอร์เซ็นต์ภายใน 1 หรือ 2 ปีนั้นนับว่าเยี่ยมยอดมากแล้วนั่นเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น