ผู้ตรวจสอบบัญชีของรัฐบาลประเทศจีนเล็งเอา Blockchain มาใช้เพื่อทำให้ระบบเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อ้างอิงจากบทความที่ถูกตีพิมพ์ในวันอังคารที่ผ่านมา สำนักงานตรวจสอบบัญชีแห่งชาติของประเทศจีนได้อธิบายถึงการใช้เทคโนโลยี Blockchain โดยกล่าวว่ามันจะสามารถบรรเทาปัญหาคอขวดที่เกิดจากโครงสร้างของระบบการเก็บข้อมูลได้ ในปัจจุบันสำนักงานดังกล่าวมีความรับผิดชอบในเก็บข้อมูลไว้เป็นจำนวนมาก และมีความเชื่อว่าเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบ Decentralized Ledger จะทำให้การเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำนักงานตรวจสอบบัญชีมีหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมการเงินทั้งหมดของรัฐบาล ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการบริหาร ไปจนถึงแผนงานสาธารณรายบุคคล พวกเขายังตรวจตราสำนักงานในระดับจังหวัดและท้องถิ่นที่มีคณะรัฐมนตรีอีกด้วย
ให้ลองจินตนาการถึงภาพที่ทุก ๆ สำนักงานและผู้ตรวจสอบบัญชีทุก ๆ คนเป็นแต่ละ Nodes ในเครือข่าย ในบทความยังกล่าวไว้ว่า เทคโนโลยี Blockchain นั้นจะสามารถลดภาระหน้านี่ในการทำงาน ในขณะที่รับรองว่าการทำธุรกรรมต่าง ๆ จะมีการบันทึกลงไปในฐานข้อมูล และสามารถตรวจสอบได้
ถึงแม้ว่าในทางทฤษฎี การใช้เทคโนโลยี Blockchain จะสามารถเปิดโอกาสให้ทางรัฐบาลได้ลองอะไรใหม่ ๆ แต่ว่าก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าโครงการนี้จะถูกนำไปใช้จริงหรือไม่
อ้างอิงจากบทความ สำนักงานกลางต้องการที่จะใช้ระบบแบบ Decentralized กับระบบที่ทำการอยู่ปัจจุบัน สำนักงานดังกล่าวเป็นสำนักงานเดียวที่เก็บข้อมูลที่ถูกรายงานจากคณะรัฐมนตรีในระดับจังหวัดและท้องถิ่น ไว้ทุกตัวอักษร
สำนักงานตรวจสอบบัญชีแห่งชาติ เขียนในบทความว่า :
“ด้วยความที่สำนักงานเหล่านี้ไม่ต้องเก็บข้อมูล ทำให้สำนักงานตรวจสอบบัญชีแห่งชาติเจอสถานการณ์ที่ต้องคอยอัพเกรดซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์ของเราตลอดเวลา ซึ่งมันวัฎจักรที่เป็นปัญหา”
“แต่เทคโนโลยี Blockchain นั้นมีศักยภาพที่จะทำให้เราหลุดออกจากวัฎจักรดังกล่าวได้”
ถึงแม้ว่าพวกเราจะเห็นข่าวอยู่บ่อย ๆ ว่าทางรัฐบาลจีนนั้นทั้งแบน ทั้งกีดกัดคริปโต แต่จากบทความดังกล่าวจะสามารถเห็นได้ชัดเลยว่า มุมมองต่อ Blockchain ของรัฐบาลจีนนั้นคนละเรื่องกับคริปโตเลย พวกเขาเล็งเห็นถึงศักยภาพและประโยชน์ของมัน ซึ่งคาดว่าการที่พวกเขาแบนคริปโต ไปก่อนหน้านั้น ทำไปทำเพื่อที่จะควบคุมคริปโตให้ได้ในระดับเบื้องต้นก่อนที่จะพวกเขาจะประยุกต์แนวคิดของคริปโตมาใช้ในประเทศของเขาเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น