ทุก ๆ คนในวงการคริปโตย่อมรู้กันดีว่า Bitcoin นั้นมีจำนวนจำกัดแค่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ Bitcoin เหรียญที่ 17 ล้านกำลังจะถูกขุดขึ้นมา ซึ่งนับเป็นอีกก้าวในประวัติศาสตร์ของ Cryptocurrency ตัวแรกของโลก
ยังไม่สามารถทำนายได้แน่อย่างแน่ชัดว่า Bitcoin เหรียญที่ 17 ล้านนั้นจะถูกขุดขึ้นมาตอนไหน เนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ค่า Difficulty หรือกำลังขุดทั้งระบบ แต่ที่เราทราบกันตอนนี้คือ รางวัลแต่ Block ของ Bitcoin คือ 12.5 BTC และ Bitcoin ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการสร้าง Block ใหม่หนึ่ง Block ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1,800 BTC จะถูกขุดขึ้นมาใหม่ต่อวัน
นาย Alex Sunnarborg ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน Testras กล่าวว่าเลขดังกล่าวคือ “กำแพงทางจิตวิทยา” ซึ่งมันถูกตีความไปหลากหลายความหมายในชุมชนคริปโต
นาย Sunnarborg กล่าวว่าอีกไม่นาน Bitcoin กำลังจะถูกขุดขึ้นมาทั้งหมด 80 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าให้มองอีกมุมหนึ่งคือ จะเหลือ Bitcoin แค่ 1 ใน 5 เท่านั้นที่ยังไม่ได้ถูกขุดขึ้นมาสำหรับนักขุดในอนาคต
ป่าวประกาศ
บางคนก็บอกว่าควรจะใช้โอกาสที่ครั้งนี้ในการแผยแพร่ ให้ความรู้ ถึงศักยภาพความสามารถของ Bitcoin ต่อสาธารณะ ยกตัวอย่างเช่น หากนักขุดทุก ๆ คนในเครือข่าย Bitcoin ไม่พร้อมใจกันที่จะเปลี่ยนแปลง จำนวน Bitcoin จะไม่มีทางเพิ่มขึ้น สมบัติเฉพาะตัวของ Bitcoin นี้จะแสดงให้เห็นถึงความจำกัดในตัวทรัพย์สิน อาจจะทำให้ผู้คนที่มีความสนใจในทรัพย์สินเช่น ทอง เล็งเห็นถึงมูลค่าของมัน หรือเผลอ ๆ อาจจะเปลี่ยนมุมมองสำหรับคำว่า “Cryptocurrency” สำหรับคนส่วนใหญ่ได้ด้วย
ไม่เหมือนกับเงินปกติที่ถูกผลิตได้โดยธนาคาร Bitcoin ถูกออกมาให้สร้างได้ด้วยเครือข่าย Blockchain ถ้าเกิดนักขุด ขุดเจอ Block และสามารถทำการแก้ปัญหาเพื่อที่จะเป็นยืนยันธุรกรรมในเครือข่ายได้ ผู้ที่ทำสำเร็จจะได้ Bitcoin ที่ถูกปล่อยออกมาใหม่จากเครือข่ายเป็นรางวัล จากนั้นจำนวน Bitcoin ที่ยังไม่ถูกขุดก็จะลดลง
Bitcoin จะหมดเมื่อไร ?
รางวัลที่นักขุดจะได้รับนั้นเปลี่ยนไปตามเวลา เนื่องจากระบบที่ได้ถูกสร้างขึ้นไว้
ย้อนกลับไปเมื่อนาย Satoshi Nakamoto นั้นได้ขุด Bitcoin Block แรกในวันที่ 3 มกราคม ปี 2009 เขาได้สร้าง Bitcoin 50 เหรียญแรกขึ้นมา และรางวัลในจากขุดจะคงไว้ที่ 50 BTC สำหรับ 209,999 Blocks แรก และเมื่อ Block ที่ 210,000 จะเริ่มขุดขึ้นมานั้น ได้มีกระบวนการที่ชื่อว่า Halvening หรือการแบ่งครึ่ง นั่นเอง
กระบวนการดังกล่าวถูกออกแบบมาให้ทำงานทุก 210,000 Blocks รางวัลที่นักขุดได้รับจะลดลงครึ่งนึง กล่าวคือจาก 50 BTC เหลือ 25 BTC และกระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี 2016 และรางวัลที่ได้รับในปัจจุบันคือ 12.5 BTC หมายความว่ามี Bitcoin อีกแค่ 4,000,000 BTC เท่านั้นที่เหลือสำหรับนักขุดในตอนนี้
Bitcoin มีกระบวนการ Halvening เพื่อที่จะป้องกันการเฟ้อของ BTC และป้องกันไม่ให้ BTC ถูกขุดเร็วจนเกินไป
แอดมินของ Subreddit r/bitcoin นาม BashCo ได้พลอตภาพของกราฟของปริมาณ Bitcoin ทั้งหมด (เส้นสีน้ำเงิน) เทียบกับความเฟ้อของค่าเงิน (เส้นสีส้ม) ต่อเวลาที่ผ่านไป
ที่มา BashCo
หากเราสมมุติว่าเครือข่าย Bitcoin ยังทำงานดังเดิมทุก ๆ อย่าง คือมี Block เกิดขึ้นมาใหม่ทุก ๆ 10 นาที และมีการ Halvening ทุก ๆ 210,000 Blocks Bitcoin เหรียญสุดท้ายจะถูกขุด ในเดือนพฤษภาคม ปี 2140
120 ปีข้างหน้า
อ้างอิงจากกราฟ เราจะรู้แล้วว่า Bitcoin ถูกออกแบบมาให้อยู่กับเราไปอีกนาน
นาย James Lopp หัวหน้าวิศวกรผู้พัฒนากระเป๋าคริปโตนาม Casa กล่าวเตือนว่า จริง ๆ แล้ว Bitcoin นั้นสามารถแบ่งได้ยิบย่อยมาก เศษเสี้ยวที่เล็กที่สุดของ Bitcoin อาจจะมีมูลค่ามหาศาลในอนาคตก็เป็นได้
“ถึงแม้ว่าจำนวน 17 ล้านเหรียญนั้นจะดูจำกัด แต่มันไม่เพียงพอให้เศรษฐีทุกคนในปัจจุบันครอบครอง Bitcoin เต็ม ๆ 1 เหรียญด้วยซ้ำ ยังโชคดีที่ 1 BTC สามารถแบ่งได้เป็น 100 ล้านซาโตชิ ซึ่งนั่นจะทำให้มันเหมือนมีจำนวนมากขึ้น”
และที่สำคัญ เราต้องอย่าลืมว่าเครือข่าย Bitcoin ไม่ได้หยุดทำงานหลังจากที่ถูกขุดขึ้นมาทั้งหมด ในเวลานั้นนักขุดจะได้รางวัลเป็นค่าธรรมเนียมแทน
แต่กระนั้นก็ยังมีคำถามมากมายถูกทิ้งไว้ โดยไร้ซึ่งคำตอบมากมาย เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า Bitcoin ได้เดินทางมาไกลขนาดไหนแล้ว และยัังเหลืออีกไกลแค่ไหนที่มันยังต้องเดินทางต่อไป
อ้างอิงจากคำพูดของนาย Adam Back นักพัฒนาอาวุโส : “มาอีกหนึ่ง เหลืออีกสี่”
ที่มา Cointelegraph
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น