นาย John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทด้าน Cybersecurity นาม McAfee และนักโปรโมท ICO ชื่อดังในวงการคริปโตได้ประกาศเปิดตัวคริปโตที่จับต้องได้นาม “McAfee Redemtion Unit” หรือ MRU
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นที่ทวีตของบัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์นาม McAfee และได้รับการยืนยันจากเจ้าตัวเอง โดยคริปโตดังกล่าวนั้นจะทำงานแยกกับ McAfee Coin ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งดูเหมือนตอนนี้เว็บไซต์ดังกล่าวของมันจะไม่ทำงานแล้ว
คริปโตที่จับต้องได้นั้น จะมาในรูปแบบธนบัตร ซึ่งจะมี 7 รูปแบบ และะมีมูลค่าตั้งแต่ 1 ถึง 500 MRU โดย 4 รูปแบบนั้น จะมีรูปนาย McAfee ในอริยบทต่าง ๆ และรูปแบบอื่น ๆ นั้นมีนาย Jihan Wu ผู้ก่อตั้งบริษัท Bitmain นาย Brock Pierce ผู้ประกอบการด้านคริปโต และนาย Roger Ver ผู้ก่อตั้งเว็บ Bitcoin.com และผู้สนับสนุน Bitcoin Cash ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า รูปดังกล่าวที่จะอยู่บนธนบัตรนั้นได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวแล้วหรือไม่ อย่างไร
นาย McAfee กล่าวว่า คริปโตดังกล่าวจะทำงานด้วยเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ครอบครอง MRU สามารถแลกธนบัตรกลับเป็นเงินทั่วไปได้ด้วย โดยการนำมาแลกที่สถาบัน MRU
สามารถแลกเป็นเงินทั่วไปได้
โดยแต่ละ MRU นั้นจะมีมูลค่าเริ่มต้นที่ 9.95 ดอลลาร์ และสามารถนำไปแลกเป็นเงินกลับมาโดยตรงกับ นาย McAfee เองซึ่งประมาณว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 นาที
อ้างอิงจากนาย McAfee ธนบัตรกว่า 341,000 MRU ในทุกรูปแบบนั้นถูกสร้างขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว โดยในเครือข่ายจะมีทั้งหมด 6,050,000 MRU และเหมือนจะบอกเป็นนัย ๆ ว่ามีมูลตลาดทั้งหมด 60.2 ล้านดอลลาร์
สมมุติว่า นาย McAfee ซึ่งมีอายุ 72 ปี ใช้เวลา 10 ชั่วโมงต่อวันในการแลก MRU เป็นเงินปกติ (รวมในวันหยุดทั่วไป และเสาร์อาทิตย์ด้วย) เขาจะต้องใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 28 ปีในการแลก MRU ทั้งหมดกลับมาเป็นเงินปกติ และหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ทำให้นาย McAfee เสียชีวิต ผู้ครอบครอง MRU จะไม่ได้เงินชดเชยใด ๆ เลย
จริง ๆ แล้วนั้น กระบวนการแลกคริปโตเป็นเงินทั่วไปของ MRU นั้นซับซ้อนยิ่งกว่าการแลก USDT เป็นเงินดอลลาร์ของบริษัท Tether เสียอีก อ้างอิงจากข้อความที่ถูกตีพิมพ์บนธนบัตร MRU การแลกคืนสามารถทำได้แค่ในเม็กซิโกระหว่างเวลาทำการที่บริษัทกำหนดซึ่งประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น โดยเจ้าของธนบัตรจะได้รับวัน เวลา และสถานที่ในการนัดเจอนาย McAfee ในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งจะแลกได้รอบละ 100 MRU เท่านั้น
นาย McAfee อธิบายว่า ทำไมกระบวนการดังกล่าวถึงได้มีความซับซ้อน:
“การแลกคืนนั้นตั้งใจทำเพื่อให้มีความซับซ้อน ผู้ติดตามส่วนใหญ่ของผมนั้นมีความภักดีและผมรู้สึกว่าจะมีคนบางคนยอมเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้โอกาสมาพบกับผมเป็นการส่วนตัว กระบวนการดังกล่าวนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างมูลค่าให้กับคริปโต ถ้าเกิดมูลค่าของธนบัตรนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการแลกคืน ซึ่งผู้คนยอมที่จะจ่ายนั้น มูลค่าของธนบัตรจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่กุญแจสำคัญเลยคือวิธีที่ผมออกแบบเว็บไซต์สำหรับการประมูล ซึ่งในตอนนี้ผมยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากกว่านี้”
ลงเลือกตั้งเป็นประธานธิปดี
นอกจากนี้ในวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่านาย John McAfee จะมีความสนใจในการเมือง โดยเขาเชื่อว่านี่จะเป็นวิธีที่เขาจะสามารถช่วยชุมชนคริปโตได้ดีที่สุด
อ้างอิงจากทวิตของนาย John McAfee กล่าว:
“ผมได้ตัดสินใจที่จะเข้าแข่งขันเพื่อตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ในปี 2020 ถ้าเกิดพรรค Libertarian อยากร่วมมือกับผม ผมจะร่วมมือกับพวกเขา แต่ถ้าไม่ ผมจะสร้างพรรคของผมเอง ผมเชื่อว่าวิธีการนี้จะส่งผมดีกับชุมชนคริปโตมากที่สุด”
ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่การล้อเล่นหรือโดนแฮ็คแต่อย่างใด ในอดีตนาย John McAfee นั้นมีอิทธิพลเป็นอย่างมากกับวงการคริปโตมาตลอด ส่วนในอนาคตนั้น การตัดสินใจทั้งสองอย่างนี้ของนาย McAfee จะส่งผลอย่างไรต่อวงการคริปโต ก็ต้องติดตามกันต่อไป
ที่มาภาพ Twitter, Oracle Times
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น