อ้างอิงจากข่าวเดลินิวส์ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยเผยว่าจะปรับกฏเกณฑ์จำนวนห้าข้อที่ห้ามไม่ให้สถาบันทางการเงินยุ่งเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศหลักเกณฑ์การกำกับของที่ทาง ก.ล.ต. ได้ออกมาก่อนหน้านี้
วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมาทางธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เผยถึงการปรับกฏเกณฑ์ 5 ข้อที่ห้ามไม่ให้สถาบันการเงินยุ่งเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล โดยมีรายละเอียดดังนี้
- การเข้าไปลงทุนหรือซื้อขายในสกุลเงินดิจิทัล
- การให้บริการรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลผ่านช่องทางให้บริการของสถาบันการเงิน
- การสร้างแพลตฟอร์ม
- การให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตในการซื้อสกุลเงินดิจิทัล
- การสนับสนุนหรือให้คำปรึกษากับลูกค้าเกี่ยวกับการลงทุนหรือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล เพื่อให้การกำกับเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นอกจากจะปรับกฏเกณฑ์แล้วนั้น 1-2 วันนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะออก ประกาศในราชกิจจานุเบกษาจำนวน 2 ฉบับ เรื่องแผนยกระดับการบริหารจัดการความเสี่ยงของธนาคารพาณิชย์ด้วยรีโคเวอร์รี่ แพลน (อาร์ซีพี) ซึ่งจะเป็นแผนล่วงหน้ารองรับการแก้ไขปัญหาของธนาคารพาณิชย์ สอดคล้องและครอบคลุมสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ปัญหาสภาพคล่อง ปัญหาเงินกองทุน คุณภาพสินทรัพย์ และความปลอดภัยไซเบอร์
โดยการออกประกาศในครั้งนี้ก็เพื่อช่วยลดโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้ฝากเงินและภาคธุรกิจ โดยธนาคารพาณิชย์ต้องนำส่งแผนให้ธนาคารแห่งประเทศไทย นำมาทบทวนเป็นประจำทุกปี เพื่อให้แผนเป็นปัจจุบัน สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง โดยจะเริ่มในเดือนมิถุนายนปี 2018
อ้างอิงจากนางฤชุกร สิริโยธิน รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนอีก 1 ฉบับนั้น จะเป็นเรื่องยกระดับธรรมาภิบาลของสถาบันการเงิน โดยกำหนดวาระดำรงตำแหน่งของกรรมการอิสระนั่งได้ต่อเนื่องไม่เกิน 9 ปี
ก่อนหน้านี้ธนาคารแห่งประเทศไทย กำลังมองหาเทคโนโลยี Blockchain ระบบการชำระเงินและเบิกจ่ายเงินระหว่างธนาคาร โดยมีเป้าหมาย ก็เพื่อการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในองค์กร สามารถทำธุรกรรมและการตรวจสอบความถูกต้องต้อง มีความรวดเร็วและมีราคาที่ประหยัดนั่นเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น