<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

หรือมูลค่าหุ้นของ Facebook ที่ร่วงลง อาจมีความเกี่ยวโยงกับการที่พวกเขาแบนโฆษณาคริปโต ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อ้างอิงจาก Goodtoseo รายงานในวันที่ 26 กรกฎาคม 2018 ดูเหมือนว่า มูลค่าของบริษัท Facebook จะลดลงไปกว่า 130 พันล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นหลังจากที่ได้ทำการเตือนว่า บริษัทจะมีการเติบโตของยอดขายที่ลดลง

โดยราคาของหุ้น Facebook นั้นดิ่งลงกว่า 24 เปอร์เซ็นต์ภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงในวันพุธที่ผ่านมา นอกจากนี้คู่แข่งเช่น Snap และ Twitter ก็ลดลงด้วยเช่นกัน

เหตุการณ์ดังกล่าวถูกจุดชนวนด้วยโดยนาย David Wehner CFO ของบริษัทกล่าวว่า ยอดขายของบริษัทจะมีการชะลอลงในช่วงระยะเวลาที่เหลือภายในปีนี้

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้นาย Mark Zuckerberg ผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook สูญเสียไปกว่า 16.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีอันดับ 6 จากเดิมอันดับ 3 ของโลก

นอกจากนี้ Facebook ยังเคยถูกรายงานว่ามีการเติบโตของรายได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่สองอีกด้วย และยังพบว่ามีการเติบโตของจำนวนการ Login โดยผู้ใช้งานที่ช้าที่สุดอีกด้วย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

ต้นตอของสาเหตุ

การร่วงลงของหุ้น Facebook นั้นเกิดได้หลากหลายสาเหตุ บ้างก็คาดการณ์ว่า เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากหุ้นของ Facebook นั้นได้ทะยานอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา การร่วงลงมาปรับฐานหลังจากเหตุการณ์แง่ลบนั้นถือเป็นเรื่องปกติ

แต่หากลองเชื่อมโยงคำแถลงของนาย Wehner ที่ระบุว่า ยอดขายของบริษัทจะชลอตัวลง และการที่ Facebok ประกาศแบนโฆษณาที่มีความเกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency เช่น โฆษณา ICO เป็นต้น เรื่องทั้งสองอาจมีความเกี่ยวข้องกันก็เป็นได้

โดยปกติแล้ว รายได้ของ Facebook นั้นจะมาจากทางโฆษณา โดยการเปิดให้เพจต่าง ๆ สามารถทำการโฆษณาได้อย่างอิสระ ซึ่งการระงับโฆษณาชนิดใดชนิดหนึ่งนั้น ย่อมส่งผลกับรายได้ของพวกเขาอย่างแน่นอน ผนวกกับกระแสของ Cryptocurrency ที่กำลังมาแรง ซึ่งเม็ดเงินจากบริษัทและบุคคลต่าง ๆ ทั่วโลกเริ่มไหลไปอยู่ที่อุตสาหกรรมคริปโต และการที่โปรเจกต์เหล่านั้นไม่สามารถทำการโฆษณาได้ อาจเป็นสาเหตุที่ยอดขายของพวกเขาลดลงก็เป็นได้

นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากผู้ใช้บางคนว่า การแบนโฆษณา Cryptocurrency ของ Facebook นั้นไร้ความแม่นยำ เนื่องจากการโฆษณาข่าวที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับ Cryptocurrency เลยก็ถูกระงับด้วยเช่นกัน

เริ่มสูญเสียอำนาจ

สาเหตุอีกประการหนึ่งซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตของ Facebook อาจจะมาจากการที่ผู้ใช้งานของพวกเขาหันไปสู่ทางเลือกอื่นก็เป็นได้ หลังจากที่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Facebook ได้ถูกเรียกให้ไปชี้แจงต่อวุฒิสภาของสหรัฐฯในประเด็นของความเป็นส่วนตัวในข้อมูลของผู้ใช้งาน เนื่องจากพวกเขาปล่อยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานจำนวน 87 ล้านรายหลุดไปยัง Cambridge Analytica ซึ่งพวกเขานำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ด้านพาณิชย์ต่อ

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ได้มีคำวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากต่อผู้ใช้ ที่ออกมาแสดงความกังวลถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และด้วยเหตุนั้นเอง อาจส่งผลให้ผู้ใช้งานตื่นตัวและย้ายไปใช้งานแพลตฟอร์มอื่นที่พวกเขาสามารถควบคุมและเป็นเจ้าของข้อมูลของพวกเขาได้อย่างแท้จริง

ยังไม่รวมถึงประเด็นที่ Facebook ไม่มีตัวเลือกให้ผู้ที่สร้าง Content ให้กับแพลตฟอร์มของพวกเขาสามารถหาเงินกับมันได้เลย แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Youtube ที่มีตัวเลือกในการสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกับให้กับผู้ใช้ และ Facebook ยังคงเดินหน้าลดความสำคัญของเพจลงเรื่อย ๆ ด้วยการลด Reach ก็อาจส่งผลให้ฝ่ายผู้สร้าง Content ย้ายไปใช้แพลตฟอร์มอื่นเช่นกัน

สรุป

สาเหตุหลัก ๆ ที่ราคาของหุ้นและการเติบโตของ Facebook ลดลงนั้นอาจเกิดจากการที่พวกเขาแบนโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับคริปโต และการที่พวกเขาไม่พัฒนาแพลตฟอร์มให้เอื้อต่อฝ่ายผู้สร้าง Content รวมทั้งผู้ใช้งานเริ่มตื่นตัว ในประเด็นของความเป็นส่วนตัวในข้อมูลของตนมากขึ้นด้วย ทำให้ผู้ใช้งานและการเติบโตของแพลตฟอร์มลดลง ซึ่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังรายได้ที่ลดลงของบริษัท

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น