ล่าสุดได้มีงานวิจัยจาก National Bureau of Economic Research หรือ NBER ได้เผยว่าตลาดคริปโตนั้นเป็นไปตามชนิดของความสนใจที่ตลาดได้รับ ซึ่งแตกต่างจากตลาดการเงินทั่วไป
อ้างอิงจากรายงานซึ่งถูกตีพิมพ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในทางตรงกันข้าม Cryptocurrency ไม่ได้ตอบสนองในแง่ปัจจัยเดียวกับตลาดการเงินทั่วไป แต่มันตอบสนองกับ “ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency โดยเฉพาะ”
ปัจจัยพิเศษดังกล่าวนั้นรวมไปถึงความสนใจของนักลงทุน และกระแสของตลาด ซึ่งถูกอธิบายด้วย “ข้อมูลกระแส Cryptocurrency รายวันและรายสัปดาห์”
นาย Yukun Liu และนาย Aleh Tsyvinski นักเศรษฐศาสตร์จาก Yale University และหนึ่งในผู้ทำงานวิจัย กล่าวว่า “ตลาดไม่ได้พิจารณาว่า Cryptocurrency นั้นเหมือนกับสินทรัพย์ทั่ว ๆ ไป”
โดยการเก็บข้อมูลในระยะเวลาหลายปี วิจัยได้เปรียบเทียบผลตอบแทนที่ได้จริง และผลตอบแทนที่วางไว้ โดยการใช้โมเดลนาม CAPM ซึ่งเป็นโมเดลทางการเงินทั่วไปในการประมาณราคา
นาย Liu และ Tsyvinski ได้ใช้โมเดลดังกล่าวในการเปรียบเทียบ Cryptocurrency กับค่าเงินปกติ เช่นยูโรและ โลหะที่มีค่าเช่น ทองคำ ด้วยปัจจัยเศรษฐศาสตร์มหภาค หรือ Macroeconomic Factors เช่น การบริโภคที่เพิ่มขึ้น
โดยพื้นฐานแล้วการเพิ่มขึ้นของราคาในช่วง 1, 3, 5 หรือ 6 วันอาจถูกคาดการณ์ได้โดยผลตอบแทนรายวันเพียงรอบเดียว ในขณะที่ผลตอบแทนรายสัปดาห์ก็สามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดใน 1, 2, 3 หรือ 5 สัปดาห์ ข้างหน้าได้เช่นกัน
นอกจากนี้ งานวิจัยยังได้นำข้อมูลของผู้บริโภคจาก Google หรือ Twitter มาวิเคราะห์ต่อ พบว่า หากมีการค้นหาคำว่า Bitcoin มากขึ้น จะมีการเพิ่มขึ้นของราคาโทเคนในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป
อ้างอิงจากรายงาน โดยเฉลี่ยแล้วหากมีการค้นหาคำดังกล่าวใน Google เพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ จะส่งผลให้มีราคาเพิ่มขึ้น 2.75 เปอร์เซ็นต์ และ 2.5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ Twitter แต่ในทางกลับกัน หากมีการค้นหาคำว่า “Bitcoin Hack” เพิ่มขึ้น ราคา Bitcoin จะลดลง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น