นักวิจัยพลังงานเผย ประเด็นการกินพลังงานของ Bitcoin อาจทำให้เกิดการพัฒนาของนวัตกรรมได้

ประเด็นของการขุด Bitcoin เริ่มเป็นที่ถกเถียงมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายในอุตสาหกรรม เนื่องจากนักขุด Bitcoin จะได้รางวัลเป็น Bitcoin หลังทำการยืนยันธุรกรรมให้ภายในเครือข่าย แต่ก็มีปัญหาที่ตามมาในเรื่องผลกระทบของมันเช่นกัน เพราะว่าการที่ ขุด Bitcoin ได้นั้น เครื่องขุด Bitcoin จำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นพลังงานไฟฟ้าที่มันใช้ไป หรือเสียงที่มันปล่อยออกมา

นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และกลุ่มอื่น ๆ พร้อมทั้งนักการเมืองเริ่มมองว่า Cryptocurrency นั้น “เป็นสิ่งชั่วร้าย” เนื่องจากมันสิ้นเปลืองพลังงานเป็นอย่างมาก

ในทางกลับกัน นักวิจัยที่ University of Pittsburgh ได้ให้ความเห็นว่า การวิพากษ์วิจารณ์การใช้พลังงานของเครื่องขุด Cryptocurrency ว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากการขุดคริปโตถือเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญทำให้การทำธุรกรรมเกิดขึ้นได้ ซึ่งสร้างประโยชน์ต่อโลกของเรา

ดร. Katrina Kelly-Pitou ได้เขียนบทความ สำหรับประเด็นดังกล่าวว่า คำวิพากษ์วิจารณ์ของนักอนุรักษ์เหล่านั้นทำให้เกิดการเข้าใจแบบผิด ๆ พวกเขาเหล่านั้นใช้ปัญหาด้านพลังงานของ Bitcoin ทำให้ผู้คนหมดความสนใจที่จะศึกษาประโยชน์ที่แท้จริงของเทคโนโลยีเงินดิจิทัล

“ดิฉันเป็นนักวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เฉพาะเจาะจงไปที่ระบบเปลี่ยนสภาพพลังงานเสีย ๆ เช่น Data Centers และ คอมพิวเตอร์ หากลองสังเกต รถไฟ, เครื่องบิน และยานยนต์ ก่อนหน้านี้มันล้วนแต่กินพลังงานทั้งนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านมา เทคโนโลยีเหล่านั้น เริ่มใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการพัฒนาตามปกติ”

ดร. Kelly-Pitou ชี้ว่า เทคโนโลยีส่วนใหญ่จะเริ่มใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกันกับ Bitcon ที่นักขุดจะคอยหาวิธีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นจากการลดต้นทุนลง แทนที่จะโฟกัสว่ามันใช้พลังงานไปเท่าไร เราควรที่จะโฟกัสยังคำถามที่ว่า จะสร้างโมเดลที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ได้อย่างไร

“Bitcoin ไม่จำเป็นต้องเป็น “ผู้ร้าย” เสมอไป เนื่องจากมันยังใหม่ และไม่ค่อยมีคนเข้าใจมันมากเท่าไรนัก ดิฉันเชื่อว่าการที่จะหยิบยกประเด็นการใช้พลังงานของ Bitcoin มาพูดถึงในตอนนี้ อาจจะไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไรนัก”