<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“ราคา Bitcoin อาจร่วงแตะ 5,000 ดอลลาร์ภายในต้นปีหน้า” กล่าวโดยชาวไทยผู้ก่อตั้ง CryptovationX

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

CEO บริษัทหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนในตลาดคริปโต กล่าวยืนยันคำเดิมที่เคยพูดไว้ตั้งแต่ต้นปี 2561 ว่า ราคา Bitcoin น่าจะเห็นการลงไปแตะที่ระดับ 5,000 ดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 ก่อนที่ราคาจะกลับตัวพุ่งขึ้น 10 เท่า

นายพลเดช อนันชัย CEO CryptovationX กล่าวถึง ราคา Bitcoin ว่ามีโอกาสที่จะเห็นระดับ 5,000 ดอลลาร์ เพราะตามกลไกของตลาดมันน่าจะเป็นแบบนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วจุดต่ำสุดที่จะลงไปถึงได้คือกรอบราคาที่ราวๆ ระดับ 3,000 – 7,000 ดอลลาร์

“การร่วงลงของราคาเคยแตะระดับต่ำสุดที่ 5,800 ดอลลาร์และไม่เคยหลุดต่ำกว่าระดับนั้นอีกเลย แต่ถ้าได้มีโอกาสลงไปที่ระดับ 5,000 ต่ำๆ มันอาจจะเกิดอาการ FOMO จนทำให้คนแห่เข้ามา ซึ่งน่าจะเป็นลักษณะของการทำให้ไฟติดแล้วพุ่งขึ้นในเชิงจิตวิทยา แต่ในเชิงคณิตศาสตร์ หรือ กราฟ ตัว Support Line มันอยู่ตรงนั้นจริงๆ”

นอกจากนี้นายพลเดช ยังกล่าวอีกว่า ผมเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาลงมาที่ระดับ 5,000 มันจะมีขาขึ้นที่ยิ่งใหญ่เหมือนครั้งก่อน เพราะตามประวัติศาสตร์ราคามันจะลงประมาณ 3-6 เท่าก่อนจะพุ่งขึ้นมากกว่า 10 เท่า ซึ่งมันเป็นในลักษณะแบบนี้มาประมาณ 3 รอบ โดยรอบพีคของรอบนี้คือระดับ 20,000 ดอลลาร์ ซึ่งถ้าลงมา 6 เท่า จะอยู่ที่ระดับ 3,000-4,000 ดอลลาร์ แต่ถ้าลงมา 3 เท่าจะอยู่ที่ระดับ 6,000-7,000 ดอลลาร์ นั้นแปลว่าช่วง 4.5 เท่า จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับกลางๆ

“จริงๆ แล้วความเชื่อมั่นในภาพรวมมันน่าจะถูกลดลง มันพุ่งขึ้นไปก็จริง แต่พอคนหลุดดอยแล้ว คนก็จะเทขาย ผมเชื่อว่าในระยะกลางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน (15 ต.ค.) ที่   Tether ผันผวน น่าจะทำให้เกิดแรงขาย”

จะเห็นจุด Bottom ของราคา

ทั้งนี้ นายพลเดชน ยังได้กล่าวอีกว่า มีโอกาสที่จะเห็นจุดต่ำสุดของราคาในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 :

“เมื่อวาน OKEx ลิสต์  Stablecoin อื่นๆ เข้าไป เพื่อไปพยุงหรือทำให้รู้ว่า ชีวิตเราไม่ได้ผูกอยู่กับแค่ Tether นะ แต่ว่าแน่นอนสิ่งที่มันเกิดขึ้นไปแล้วมันก็ทำลายวงการไปแล้ว ดังนั้นแรงขายตรงนี้มันน่าจะเป็นเทรนด์ที่ทำให้ราคาลงไปแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ได้ และประมาณไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ก็จะเป็นไตรมาสที่น่าเห็น Bottom ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นอย่างสง่างาม”

ปัจจัยที่อาจทำให้ Q4/61 ราคายังทรง

เมื่อถามถึงราคาของ Bitcoin ในช่วงปลายปี 2561 นี้ นายพลเดชเผยว่า สิ่งที่ทำให้ไม่สามารถเห็น Bottom ในไตรมาสที่ 4/61 ได้ เพราะ Bitmain IPO ไม่มีทางที่จะให้ตลาดมัน cash โดยทางBitmain จะต้องพยายามซื้อหรือทำอะไรก็ตามที่ทำให้ตลาดมีราคาทรงๆ

ซึ่งก่อนหน้านี้ Bitmain IPO มีกำหนดจะออกมาในช่วงเดือนกันยายน แต่ต้องเลื่อนด้วยปัจจัยที่ไม่สามารถพยุงราคาให้มันสูงเพื่อที่จะสร้าง Valuation ตัวเองให้สูงได้ จึงขอเลื่อนมาเป็นไตรมาสที่ 4/61 เพราะฉะนั้นภายใน Q4 นี้ Bitmain ต้องทำทุกวิถีทางให้ราคายังทรงอยู่ประมาณนี้หรืออย่างดีก็อาจจะเป็นระดับ 6,000 – 7,000 ดอลลาร์

“ดีไม่ดี เรื่อง Tether อาจจะเป็นสิ่งที่เขาพยายามจุดไฟ เพื่อให้คนมา FOMO แล้วขึ้นก็ได้ เพราะหลอกคนว่าขึ้น แต่จริงๆ อย่างที่เห็นมันไม่ได้ขึ้นต่อมันทรงตัวเท่าเดิม เขาจะทำทุกวิถีทางให้อย่างน้อยมันทรงๆ เพื่อที่จะเป็นตัวล่อเม่าเข้ามาเยอะๆ อีกครั้งหนึ่ง และพอ Bitmain IPO เปิดตัวที่ตลาดฮ่องกง หลังจากนั้นเขาก็น่าจะปล่อยเลยตามเลย ซึ่งการปล่อยเลยตามเลยจากการที่มันไม่ได้มีแรงซื้อ ไม่ได้มีเงินใหม่เข้ามา ไหนจะ ETF ที่ไม่ได้รับการอนุมัติอีก ก็น่าจะทำให้ราคาร่วงไปถึง Bottom ที่ 5,000 ดอลลาร์ และหลังจากนั้นก็เป็น Believer จริงๆ ที่กลับเข้ามาอีกรอบหนึ่งตาม cycle ของตลาด ก่อนที่จะขึ้นไปอีก 10 เท่า”

ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานราคาของ Bitcoin ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 7,200 ดอลลาร์ ก่อนที่จะทรงตัวในระดับราวๆ  6,000 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา

สำหรับการสัมภาษณ์ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นในงาน Fintech Chanllenge ครั้งที่ 3 : The Discovery ซึ่งจัดโดยสำนักงานก.ล.ต. และ สมาคมฟินเทค ซึ่ง CryptovationX เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ 12 ทีมสุดท้ายก่อนจะประกาศผู้ชนะเลิศในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น