<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บ้านจารวิจิตร เปิดใจแจงกรณีพัวพันคดีฟอกเงินบิทคอยน์ ชี้พร้อมเดินหน้าตามกระบวนการยุติธรรม

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานข่าวประเด็น นักแสดงหนุ่มหลอกชาวต่างชาติเพื่อลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล โดยเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบได้เข้าจับกุมนาย จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาในข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” พร้อมพวกอีก 7 คน ก่อนที่ล่าสุดทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เผยแพร่คำสั่งให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด กรณีนายปริญญา จารวิจิต พี่ชายของนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือ บูม นักแสดงกับพวกโดยมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา อ้างอิงจากเว็บไซต์ข่าวHoonsmart ระบุว่า ครอบครัว จารวิจิตร เปิดใจชี้แจ้งกรณีมีชื่อเข้าไปพัวพันคดีหุ้นบิทคอยน์ โดยการแถลงข่าวดังกล่าวเป็นการเล่าถึงเรื่องราวที่มา และ ที่ไปในการเข้าไปพัวพันในคดี บิทคอยน์ ซึ่งมี นักแสดงหนุ่ม “บูม จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต” พร้อมด้วยน.ส. สุวิชา นายธนสิทธิ์ จารวิจิต และทนายความ เปิดใจถึงการเข้าไปพัวพันในคดีบิทคอยน์ และถูกกล่าวหาฟอกเงินทั้งครอบครัว

โดยนายบูม พี่สาว พี่ชาย ยืนยันหนักแน่น ไม่รู้เรื่องการทำธุรกรรมของนายปริญญา จารวิจิต พี่ชาย รู้แต่เพียงว่า นายปริญญา ทำธุรกิจกับนายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา นักลงทุนชาวฟินแลนด์ และพรรคพวกอีก 4-5 คนเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้ยืนยันความบริสุทธิ์และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ด้านนายธนสิทธิ์ จารวิจิตได้ กล่าวว่า “ที่เราไม่ออกมาพูดก่อนหน้านี้ เพราะคิดว่าคนพูดที่ดีที่สุดคือ นายปริญญา แต่ตอนนี้ยังประกันตัวไม่ได้ พ่อแม่เป็นคนมีชื่อเสียงในเมืองชล มีฐานะ ถูกตราหน้าว่าเป็นตระกูลโกง ผมอยากบอกว่าแต่ละคนในครอบครัวไม่มีประวัติอาชญากรรม สุวิชา น้องสาว ทำธุรกิจส่วนตัว ตอนนี้ครอบครัวถูกทำลาย ครอบครัวยืนยันไม่มีพฤติกรรมหลบหนี พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์”

ขณะที่ นายบูม จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่ถูกจับกุมตัวว่า ในวันดังกล่าว 8 ส.ค. 2561 ซึ่งเป็นวันเกิดของเขาและเป็นวันที่ถูกจับวันแรก

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น เป็นความรู้สึกของผม กังวลมากว่าผมจะไม่ถูกประกันตัว ข้อเท็จจริงผมไม่เคยคุยกับอาร์นี่เลย ไม่เคยคุยเรื่องธุรกิจหรือการลงทุนใด ๆ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัวผมคือ ผมโดนจับตอนทำซีรี่ส์ สปอนเซอร์ติดต่อเป็นพรีเซนเตอร์ 2 ราย แต่เมื่อเกิดเรื่องก็ถูกถอดหมด”

นายบูมยังกล่าวต่ออีกว่า ผลกระทบกับตัวของเขาไม่ค่อยเท่าไร แต่กับครอบครัวสำคัญมาก ผมกังวลว่าวันที่ 1 พ.ย. วันเกิดแม่ ทางกองปราบติดต่อมาให้พ่อแม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงิน ในวันเกิดของแม่ผม ในฐานะลูกทำอะไรไม่ได้ ทำไมต้องมาเกิดเรื่องอย่างนี้ และอาจต้องยื่นประกันตัว ผมกังวลว่าอาจจะไม่ได้ประกันตัว ผมอยากขอร้องขอวิงวอน ผมและครอบครัวเชื่อในกระบวนการยุติธรรม ผมพร้อมสู้คดี ไม่หนีแน่นอน ผมขอความกรุณาให้ผมและครอบครัว มีสืทธิ์ในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่

ด้านน.ส. สุวิชา จารวิจิตร กล่าวว่า พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง มั่นใจว่า ไม่เกี่ยวข้อง ไม่รู้จักตลาดหุ้น ไม่เคยลงทุน เป็นเจ้าแม่ตลาดหุ้นได้อย่างไร ไม่รู้จักบิทคอยน์ พ่อกับแม่เป็นคนมีขื่อเสียงในชลบุรี กลายเป็นตระกูลฉ้อโกง รวมหัวกันโกง เราไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย ทุกคนและธนาคารในชลบุรีรู้ว่า ครอบครัวเรามีทรัพย์สินอยู่แล้ว

“ฟอกเงินเป็นคดีอาญาที่รุนแรงมาก ผลกระทบต่อบูมซึ่งเป็นดาราไปรายงานตัวทุกนัด ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี เขาเป็นนักแสดงถูกกระแสสังคมกดดันมาก เดินออกมาถนนถูกตราหน้าว่าเป็นคนโกง ยืนยันในเจตนา ไม่หลบหนี พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และขอความเป็นธรรมกับครอบครัว ขอพื้นที่เล็ก ๆ ให้ครอบครัวเรายืน”

 

ขอบคุณภาพจาก Live FB อีจัน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น