<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

วิจัยเผย: “การขุด Bitcoin อาจส่งผลต่อโลกร้อนทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นถึง 2 องศาเซลเซียส”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะที่ Bitcoin เป็น Cryptocurrency อันดับ 1 ของตลาดคริปโตมาอย่างเนิ่นนาน และเป็นคริปโตที่มีมูลค่าโดยรวมมากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งได้รับความนิยมจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าวิจัยล่าสุดจะชี้ว่า Bitcoin อาจไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนนอกวงการเท่าไรนัก

อ้างอิงจาก Ethereumworldnews วิจัยดังกล่าวที่จัดทำโดย University of Hawaii ได้ชี้ว่า การขุด Bitcoin นั้นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกร้อนขึ้น 2 องศา (เซลเซียส) พวกเขารวบรวมข้อมูลต่าง ๆ และพบว่า การปล่อยคาร์บอนของจากการขุด Bitcoin นั้นจะส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นได้ถึง 2 องศาเซลเซียส หากยังปล่อยคาร์บอนด้วยอัตรานี้ต่อไปในอีก 22 ปีข้างหน้า และหากคำนวณปัจจัยว่า เทคโนโลยียังเติบโตในระดับนี้ ตัวเลขดังกล่าวจะลดลงมาเหลือ 16 ปีข้างหน้าแทน

การขุดคริปโตนั้นใช้กำลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์อย่างหนัก ซึ่งแปลว่ามันจะกินพลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก และมันยังไม่รวมถึงว่า การขุดคริปโตนั้นต้องใช้ระบบการทำความเย็นให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลาอีกด้วย

นางสาว Katie Talady ผู้ร่วมเขียนวิจัยดังกล่าว ให้ความเห็นว่า ถึงแม้ว่าปัจจุบันสิ่งที่ปล่อยคาร์บอนออกมาเยอะที่สุดคือจากครัวเรือน, การขนส่งเดินทาง และอาหาร แต่การขุดคริปโตซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วนั้นกำลังถูกเพิ่มเข้าไปในลิสต์นั้นด้วย อ้างอิงจากรายงาน ในปี 2017 การขุด Bitcoin ปล่อยคาร์บนกว่า 69 ล้านตัว

อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีผู้ออกมาแย้งเช่นกันว่า การรวบรวม และสมมุติฐานในวิจัยนั้นไม่เป็นจริงซะทีเดียว ศาตรจารย์ Eric Masanet จาก NorthWestern University แย้งว่า ในรายงานประมาณตัวเลขโดยคิดว่า ทุก ๆ คนจะหันมาใช้ Bitcoin แต่ความเป็นจริงแล้วมันย่อมไม่เป็นแบบนั้น ทำให้ตัวเลขอาจจะเว่อร์เกินไป และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปเรื่อย ๆ จะไม่ได้โฟกัสแค่ประสิทธิภาพในการประมวลผล แต่จะโฟกัสไปในการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพขึ้นอีกด้วย

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น