<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ขุด Bitcoin ยังคุ้มอยู่ไหม และขุดอย่างไร?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในช่วงเวลาที่ราคาบิทคอยน์เพิ่มขึ้นสูงแบบนี้ ผู้สนใจในการเข้ามาสร้างกำไรจากบิทคอยน์ก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น วิธีหนึ่งที่ดูจะเป็นที่น่าจับตามองและเป็นที่นิยมมากรองลงมาจากการซื้อเพื่อเก็งกำไรที่สุด คือ “ การขุด” ซึ่งสังเกตได้จากราคาการ์ดจอที่สูงขึ้น และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขุดตอนนี้แทบจะหมดเกลี้ยงไปจากตลาดแทบทุกที่ในโลกแล้ว แม้แต่ในประเทศไทยเองก็เริ่มหายากแล้ว และในบทความนี้เราจะมาตีแผ่ และให้ข้อมูลว่า “การขุด” คุ้มจริงๆหรือเปล่า รวมถึงนำเสนอวิธีที่คุณก็สามารถทำเองได้ในการคำนวณหาความคุ้มค่าจากสิ่งที่นักขุดทุกคนจะต้องรู้จักมันก่อนลงทุน

เราไม่ได้ขุดบิทคอยน์กันอย่างเดียว

สิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจก่อนเลยคือ ที่เราได้ยินการขุดๆกันนั้น เขาไม่ได้ขุดแต่บิทคอยน์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการขุดเหรียญอื่นๆอีกด้วย ซึ่งเราเรียกมันรวมๆว่า altcoin (alternate coin หรือเหรียญทางเลือกอื่น) เช่น Litecoin, Ethereum, DOGE, Burstcoin หรือ DASH อันที่จริงแล้ว ในกลุ่มนักขุดบิทคอยน์ชาวไทยแทบไม่มีใครขุดบิทคอยน์กันตรงๆด้วยซ้ำ ด้วยสาเหตุที่ว่า ณ เวลานี้บิทคอยน์มี difficulty หรือความยากในการขุด ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อมีคนเข้ามาขุดกันเยอะขึ้น รวมถึงการที่บิทคอยน์ใช้อัลกอริทึมในการแปลง hash แบบ SHA-256 ซึ่งต้องใช้เครื่อง ASIC ที่หาค่อนข้างยากและมีราคาที่สูงมากในการขุด ส่วนมากอาจจะขุดจาก pool ที่มีสามารถแลกเปลี่ยนเงินที่ขุดได้เป็นโดยอัตโนมัติ BTC (Bitcoin) หรือ ไปขุดเหรียญอื่น หลังจากนั้นก็โอนไปขายตามกระดานเทรดเพื่อให้ได้ BTC มา แล้วค่อยแปลงเป็นเงินไทยรวมถึงมีการขายกำลังขุดผ่านนายหน้าที่จ่ายเป็นบิทคอยน์อย่างที่เรารู้จักกันดีในประเภทการขุดที่เรียกว่า Cloud Mining โดยผู้ที่ให้บริการที่มีชื่อเสียงก็มี Nicehash และ Hashflare

รู้จักเครื่องมือในการขุด

การขุด คือ การแก้โจทย์สมการที่ถูกคิดค้นมาโดยระบบของบล็อกเชน นักขุดจะได้รางวัลจากการขุดเป็นเหรียญชนิดที่กำลังขุด โดยความยากของสมการถูกตั้งไว้โดยผู้คุมกฎบิทคอยน์เพื่อไม่ให้คนขุดได้เงินไปง่ายๆ อีกทั้งยังเป็นการดึงดูดให้คนมาลงทุนกับการขุดเนื่องจากการขุดนั้นถือเป็นหัวใจหลักสำคัญที่สามารถขับเคลื่อนให้ระบบบล็อกเชนเดินหน้าไปได้ การจะแก้สมการพวกนี้ได้ จำเป็นต้องใช้การประมวลผลของคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย การขุดเหรียญแต่ละเหรียญจะใช้ algorithm ไม่เหมือนกัน algorithm คือ วิธีการแก้โจทย์ของนักขุด อยู่ที่ว่าผู้สร้างของเหรียญนั้นอยากให้ใช้ algorithm อะไร และแต่ละ algorithm ก็เหมาะสำหรับเครื่องมือขุดที่แตกต่างกัน

CPU

CPU (Central Processing Unit) หน่วยประมวลผลกลางของคอมพิวเตอร์ ปกติเราเอาไว้คิดและคำนวณสิ่งพื้นฐานๆต่างๆเวลาเราเล่นคอม แต่ก็สามารถนำมาแก้สมการแต่ละบล็อกของบิทคอยน์และเหรียญอื่นๆได้ แต่อาจจะช้าหน่อย เพราะ CPU ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้โจทย์ที่ใหญ่และใช้เวลาขนาดนี้ซึ่ง algorithm ของ CPU  ที่นิยมใช้ขุดกันคือ CryptoNight สามารถนำไปขุดเหรียญชื่อ Monero ได้

GPU

GPU (Graphical Processing Unit) หรือที่หลายๆคนคุ้นหูกับคำว่าการ์ดจอ หลายคนอาจจะสงสัยว่า การ์ดจอมันไว้เล่นเกมนี่ เอามาขุดได้ไง ถ้าเราแงะการ์ดจอออกมา เราจะเห็นว่ามันคือ CPU จำนวนมากมาวางต่อๆกัน เนื่องจากการที่จะประมวลภาพกราฟิคสวยๆเนี่ย ไม่ได้ยาก แต่ใช้ทรัพยากรในการคำนวณ CPU อันเดียวไม่เพียงพอที่จะสร้างภาพออกมาได้ทันใจ เขาจึงคิดค้นเอา CPU มาต่อๆกัน แต่ละอันทำงานร่วมกันโดยแบ่งหน้าที่การประมวลผลออกไปเท่าๆกัน เหมือนมีคนมาช่วยงานเพิ่ม ซึ่ง GPU เป็นที่นิยมมากเพราะสามารถขุดได้หลาย algorithm

การ์ดจอ AMD จะนิยมใช้ algorithm ชื่อ Ethash สำหรับขุด ETH และ ETC ส่วนการ์ดจอ NVIDIA จะนิยมใช้ algorithm ชื่อ Equihash สำหรับขุด ZCASH แต่เนื่องด้วยความผันผวนของราคาเหรียญทำให้ปัจจุบันผู้ใช้การ์ดจอ Nvidia หันมาขุด Ethash เพราะรายได้ดีกว่าแม้จะได้น้อยกว่าการ์ดจอค่าย AMD

GPU จึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่เหมาสำหรับการขุดไม่ใช่แค่การประมวลภาพกราฟฟิคอย่างเดียว เพราะโจทย์สมการที่ต้องแก้นั้น มักจะเป็นโจทย์ที่ต้องใช้เวลาในการคำนวณแบบถึกๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เหมือนให้ไล่สุ่มรหัสล็อคให้ถูกต้อง เราจึงเอาเจ้า GPU ที่เปรียบเสมือแรงงานสิบคนมาช่วยแก้โจทย์นี้กัน

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

ASIC

ASIC (Application Specific Integrated Circuit) เป็นฮาร์ดแวร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหน้าที่พิเศษอย่างใดอย่างหนึ่ง ในที่นี้คือการสร้างขึ้นมาเพื่อขุดอย่างเดียว และไม่พอ ผู้สร้างอาจจะออกแบบมาเพื่อขุดเฉพาะ algorithm นั้นๆด้วย สำหรับ GPU อาจจะทำได้หลาย algorithm และอาจจะทำได้ดีที่สุดที่ algorithm สักสองสามตัว แต่สำหรับเจ้า ASIC มันจะทำหน้าที่ได้ดีสุดๆใน algorithm ตัวเดียว

ตัวอย่าง เช่น Antminer L3+ เป็นเครื่องขุดที่สร้างมาเพื่อขุด algorithm ชื่อ Scrypt ล้วนๆ (เป็น algorithm ที่ Litecoin ใช้) ซึ่งก็มีหลายเหรียญที่ขุดได้ด้วย algorithm นี้เหมือนกัน กำลังการขุดของ ASIC นั้นจะสูงกว่า GPU และ CPU มาก แต่ก็มาด้วยราคาที่สูงขึ้น ข้อเสียอีกอย่างคือ มันสร้างมาเพื่อขุดเท่านั้น ถ้าวันหนึ่งคุณเลิกขุด เครื่องนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ อีกทั้งความสามารถในการนำไปขายต่อนั้นแทบไม่มี แต่สำหรับ GPU หรือ CPU ก็อาจจะเอาไปใช้งานต่อได้ อีกข้อเสียหนึ่งของ ASIC Miner คือมันมักจะมีเสียงที่ดังมาก เพราะมันทำงานหนักมาก พัดลมจึงจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้เครื่องเย็นลง

นอกจากนี้ นักขุด ยังต้องลงทุนในอุปกรณ์อื่นๆอีกด้วย เช่น เครื่องวัดไฟ เครื่องสำรองไฟ ฉนวนกันเสียง อุปกรณ์ที่ช่วยทำให้เครื่องขุดเย็นขึ้น (เช่น พัดลม แอร์) หรือ PSU (Power Supply ตัวจ่ายไฟให้พอกับปริมาณไฟที่ต้องใช้)

วิธีการคำนวณว่าอุปกรณ์ที่เรามีควรขุดอะไร

เข้าไปที่ https://www.nicehash.com/?p=calc

นี่คือเว็บที่รวบรวมฮาร์ดแวร์สำหรับการขุด ทั้ง CPU, GPU และ ASIC เราสามารถเลือกหาฮาร์ดแวร์ที่เรามี หรือเราเล็งไว้ว่าจะซื้อ แล้วกดดูสเปคของมันได้เลย

โดยตัวอย่างนี้เราจะใช้เวปไซต์ Nicehash ซึ่งเป็นเวปไซต์ที่รับซื้อกำลังขุดของเราเป็นตัวอ้างอิง

เมื่อเราเลือกมาสักตัวแล้ว ในเว็บก็จะบอกว่าฮาร์ดแวร์ตัวนี้ มีความสามารถใน algorithm ไหนเท่าไรบ้าง โดยหน่วยที่เห็นจะเป็น hash per second ยิ่งสูงแปลว่ายิงดี

ด้านล่างมีการให้ใส่ Electricity Cost หรือค่าไฟไว้ด้วย ตัวเว็บจะคำนวณค่าไฟตัดออกให้ เพื่อให้เหลือกำไรจริงๆจากการขุด

ภาพด้านบน คือ การแสดงผลการคำนวณ กราฟทางด้านซ้ายคือ payrate หรืออัตรารายได้ในแต่ละช่วงเวลา ส่วนกราฟวงกลมคือการบอกว่าตอนนี้ algorithm ที่อุปกรณ์ตัวนั้นขุดได้มีสัดส่วนค่าตอบแทนอย่างไร

ตารางด้านล่าง จะแสดงให้เห็นรายรับแบบ รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี พร้อมทั้งหักค่าไฟให้ในคอลัมน์ถัดมา คอลัมน์สุดท้ายคือกำไรจริงๆ ว่าได้เป็นกี่ BTC และตีเป็นเงิน USD เท่าไร บรรทัดล่างสุดคือ Approximate ROI ย่อมาจาก Return of Investment คือ จำนวนวันที่ต้องใช้จนกว่าเราจะคืนทุนซึ่งแปลว่ายิ่งน้อยเท่าไหร่เราจะได้เงินคืนเร็วขึ้นเท่านั้น

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

ขุดเหรียญไหนดี กำไรสูงๆ

แนะนำเว็บแรกกันเลยครับ กับ https://whattomine.com/coins

แถบด้านบนสุด ให้เลือกว่าเราต้องการดูผลลัพธ์ของ  GPU CPU ASIC หรือดูเจาะลึกไปเฉพาะเหรียญนั้นๆเลย

ในภาพตัวอย่างเราได้ลองเลือกเฉพาะ Pascal algorithm ซึ่งเอาไว้ ขุด Pascalcoin ถัดมาจะมีให้ใส่ค่าไฟ และด้านล่างจะเป็นตลาดแลกเปลี่ยน เพื่อนำราคามาบอกได้ว่าน่าจะขายได้เท่าไรในตลาดเหล่านี้

ทางด้านขวามือสุด คือ ให้ใส่ว่าเราขุดด้วย GPU กี่ใบ และเป็นยี่ห้ออะไรบ้าง สายขุดเดี๋ยวนี้มีการนำการ์ดจอมาต่อกันหลายๆใบเพื่อเพิ่มกำลังการขุด

เมื่อคำนวณแล้ว เลื่อนลงมาด้านล่างจะเป็นการสรุป ในตัวอย่างนี้ คือ สามารถขุด PascalLite, Pascalcoin และขุด pool ของ Nicehash ได้ 3 คอลัมนห์หลังสุดจะเป็นการบอกกำไร

– Rev. BTC Rev. 24h คือ ผลตอบแทนเป็น BTC ใน 24 ชม.

– Rev $ Profit คือ ผลตอบแทนแบบเป็น USD

– Profitability Current | 24h | 3 days | 7days คือ เปอร์เซ็นต์กำไร ตามช่วงเวลา 4 ช่วง ตัวเลขของแต่ละช่วงจะคั่นด้วย เครื่องหมายขีด

ในภาพนี้ คุ้มสุดน่าจะเป็น PascalLite ครับ แต่ต้องระวังด้วยว่า กำไรของแต่ละเหรียญเปลี่ยนไปมาตลอด พรุ่งนี้ PascalLite อาจจะไม่คุ้มเท่านี้แล้วก็ได้อันนี้คือจากตัวอย่างคือการ์ดจอ 280x

อีกเว็บหนึ่ง คือ https://www.coinwarz.com/cryptocurrency

การทำงานคล้ายๆกัน จากภาพเราเลือกแค่ Scrypt ซึ่งค่อนข้างฮิตในหมู่นักขุด

กลายเป็นช่วงนี้บิทคอยน์ให้กำไรดีครับ โดยสามารถอ่านผลลัพธ์ได้จากคอลัมน์ดังนี้

– Revenue / Profit (per day) คือ รายได้ต่อวัน เป็น USD

– Earn 1 BTC (in days) คือ ใช้เวลากี่วันกว่าจะได้ 1 BTC

– Profit Ratio vs. BTC (Current / 14 Day Average) คือ อัตรากำไรเป็นเปอร์เซ็นต์เทียบกับราคา BTC ยิ่งสูงยิ่งดี โดยจะมี 2 ตัวเลขคั่นด้วย เครื่องหมาย / เลขแรกคือ กำไร ณ ปัจจุบัน เลขที่สองคือกำไรเฉลี่ยในช่วง 14 วัน ถ้าอยากดูความนิ่งของเหรียญไหน ให้ดูความห่างของเลขสองตัวนี้ครับ

สรุปแล้ว มันคุ้มรึเปล่า?

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

นตัวอย่างนี้ เราขอใช้การ์ดจอ NVIDIA GTX 1080 เป็นตัวขุดให้กับเรา และขุดผ่าน Nicehash pool ซึ่งจะเลือก algorithm และเหรียญที่จะขุดให้เราอัตโนมัติ พอถึงเวลาได้เงินก็จะได้เป็น BTC

ราคาการ์ดจอตัวนี้จากเว็บ JIB ถูกสุดอยู่ที่ 25,900 บาท ใช้ไฟ 180 W (ดูได้จากรูปแรกมุมขวาบน) สูตรการคำนวณไฟฟ้า คือ

W x จำนวนชั่วโมง x จำนวนวัน / 1000 = 180 * 24 * 30 / 1000 = 129.6 หน่วย ในกรณีที่เปิดตลอดทั้งเดือน

นำเลขนี้ไปใส่ที่ http://www.mea.or.th/aboutelectric/116/280/form/11 โดยเลือกตามรูปแบบอาคารที่เราอาศัยอยู่ว่าเสียค่าไฟแบบไหน สำหรับบ้านธรรมดา จะตกประมาณเดือนละ 440 บาท เพราะฉะนั้นตัวเลข ค่าไฟ 0.1 USD/kWh ที่ใส่ไปในตัวอย่างก็ค่อนข้างใกล้เคียง

เมื่อดูจากตารางคำนวณกำไรแล้ว การขุดด้วยการ์ดจอตัวนี้ หนึ่งวันจะได้ประมาณ 222.98 บาท ซึ่งเป็นกำไรล้วนๆที่หักค่าไฟแล้ว ในหนึ่งเดือนจะได้ประมาณ 6,037.30 บาท เมื่อคำนวณจากต้นทุน 25,900 แล้ว ใช้เวลาประมาณ 116 วันจึงคืนทุน วันต่อๆมานั้นคือกำไรล้วนๆ นี่คือแค่การขุดจากการ์ดจอใบเดียว บางคนอาจจะประกอบคอมพิวเตอร์ให้ใช้ได้หลายๆการ์ดจอ หรือจะไปจัด ASIC มาเลยก็ได้

แต่ขอให้ทุกท่านเข้าใจด้วยว่า ระหว่างทางการขุดอาจจะมีค่าใช้จ่าย อุปสรรค และเงินทุน เพิ่มมามากขึ้นจากการคำนวณตัวอย่างนี้ เช่น ราคา BTC ตก อุปกรณ์พัง มีบางเหรียญเกิดเปลี่ยนแปลงบางอย่างทำให้ขุดได้น้อยลง สภาพอากาศ หรือ ค่าธรรมเนียมของ pool, wallet และการโอน และอื่นๆอีกมากมาย เวลาการคืนทุนอาจจะไม่ใช้ 116 วันเป๊ะๆ ขอให้เหล่านักขุดทุกท่านคิดเผื่อกรณีร้ายแรงเหล่านี้ไว้ด้วย

ฝากไว้ให้(นัก)ขุดคิด

เหรียญมีมากมายหลายชนิดให้ขุด บางอันขุดง่ายบางอันขุดยาก บางอันขุดแล้วมีแต่ขาดทุน บางอันขุดแล้วมีแต่กำไร นักขุดทุกท่านต้องพึงระวัง และเลือกสิ่งที่จะขุดให้ดี อีกทั้งนักขุดยังต้องวางแผนให้ดีว่าจะลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์อะไรมาขุด คืนทุนได้ในเวลาเท่าไร คุ้มค่าไฟ และค่าจิปาถะอื่นๆหรือไม่

สำหรับนักขุดมือใหม่ หวังว่าบทความนี้จะเป็นความรู้ และเป็นด่านแรกก่อนที่จะเริ่มลงทุนในการขุดบิทคอยน์และเหรียญเจ้าอื่นๆ เพื่อให้สามารถรู้วิธีการคำนวณกำไรที่จะได้จากการลงทุนในรูปแบบนี้

ทาง Siam Blockchain ขอแนะนำให้ผู้อ่านทุกท่านศึกษาเพิ่มเติม ให้เข้าใจถึงทุกความเป็นไปได้ และทุกความเสี่ยงของการขุด เพราะในวันหนึ่งการขุดอาจจะไม่ได้สร้างกำไรมากมายแล้ว หรือเหรียญบางเหรียญอาจจะสลับไปใช้ Proof of Stake ทำให้ขุดแบบนี้ไม่ได้ การศึกษาก่อนการลงทุนจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดครับ

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น