เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีวิจัยจาก Forrester Research ชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ เริ่มหยุดใช้คำว่า “Blockchain” ในธุรกิจของพวกเขากันแล้ว เพราะคิดว่ามันดู “โฆษณาเกินจริงไป (Overhyped)”
รายงานดังกล่าวมีชื่อว่า “การทำนายต่าง ๆ ในปี 2019: เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภท” นักเวิเคราะห์ได้พบว่า บริษัทต่าง ๆ เริ่มหยุดใช้คำว่า “ Blockchain” และหันไปใช้คำว่า “Distributed Ledger Technology (DLT)” แทน
พวกเขาได้พบว่า มีหลายบริษัทชอบโฆษณาของสรรพคุณของ Blockchain เกินจริง หรือบางทีก็เอาบริการเก่า ๆ มาเปลี่ยนแค่ชื่อเท่านั้น ซึ่งวิจัยเรียกการกระทำดังกล่าวว่า “Blockchain Washing”
รายงานยังได้ทำนายว่า การยอมรับ Blockchain นั้นจะมีอัตราที่ช้าลง:
“ในด้านของเครืองมือและบริการ เราจะได้เห็นอัตราการถูกยอมรับที่ช้าลง เนื่องจาก DLT ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าจริง ๆ แล้วมันสำคัญขนาดไหน หรือว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้ให้บริการ และผู้ผลิตตซอฟท์แวร์ได้เท่าไร ซึ่งในปี 2019 ก็จะไม่มีอะไรแตกต่าง”
นาย Marsha Bennett นักวิเคราะห์และผู้ร่วมจัดทำวิจัยได้ระบุด้วยว่าเทคโลยี Blockchain นั้นจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือในระดับหนึ่งจากหลาย ๆ ฝ่าย ซึ่งเทคโนโลยีอื่นไม่จำเป็นต้องมี
“มันแตกต่างกับอินเทอร์เน็ทที่บริษัทเช่น Amazon หรือ eBay ตั้งใจที่จะทำอะไรสักอย่างและสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้จากไอเดียนั้น แต่ Blockchain แตกต่างออกไป มันต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย”
นักวิจัยได้ทำนายว่า ในอนาคต หลัก ๆ แล้วเทคโนโลยี Blockchain จะถูกนำไปใช้ในการแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปโทเคน (Tokenization) ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรเลยกับ Cryptocurrency
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยี Blockchain จะมีศักยภาพที่สามารถแก้ปัญหามากมาย แต่ก็ดูเหมือนว่า ด้วยความที่มันเพิ่งถือกำเนิดไม่นานทำให้ยังคงมีช่องโหว่อีกมาก ที่ต้องติดตามต่อไปว่าควรจะแก้ไขอย่างไร
เมื่อปลายปี 2017 ได้มีรายงานว่า ราคาหุ้นของบริษัทขายน้ำชามะนาวแห่งหนึ่งพุ่งขึ้น 4 เท่าหลังจากที่เปลี่ยนชื่อเป็น “Long Blockchain Corporation” จาก “Long Corporation”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น